ข้ามไปเนื้อหา

ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๔๒

จาก วิกิซอร์ซ

ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๔๒ เรื่องจดหมายเหตุของคณะพ่อค้าฝรั่งเศส ซึ่งเข้ามาตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยา ตอนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภาค ๓

พิมพ์ในงารปลงศพ นางรัชฎกิจพิพัฒน ( เทียบ ทวีศรี ) เมื่อปีเถาะ พ.ศ. ๒๔๗๐

พิมพ์ที่โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ ถนนบำรุงเมือง ในพระนคร

คำนำ จดหมายเหตุพ่อค้าฝรั่งเศสที่พิมพ์ในสมุดเล่มนี้ ศาสตราจารย์ ยอชเซเดส์ เลขานุการราชบัณฑิตยสภาได้ขอคัดมาจากประเทศฝรั่งเศส คราวออกไปเยี่ยมบ้านเรือนเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ ราชบัณฑิตยสภาได้จัดให้มีผู้แปลไว้ในหอพระสมุดสำหรับพระนคร ตามรายการที่ศาสตราจารย์ ยอช เซเดส์ จดมาให้ว่าได้พบแหล่งหนังสือเหล่านี้ ๔ แห่ง คือที่กระทรวงว่าการเมืองขึ้นแห่ง ๑ เปนรายการแลจดหมายต่าง ๆ ที่รัฐบาลฝรั่งเศสได้รับจากประเทศสยาม ที่กระทรวงทหารเรือแห่ง ๑ เปนสำเนาจดหมายและคำสั่งต่าง ๆ ที่ได้ส่งมายังประเทศสยาม ที่กระทรวงต่างประเทศแห่ง ๑ เปนสำเนาหนังสือสัญญา และรายงารสำคัญที่คณะทูตานุทูตฝรั่งเศส ซึ่งเข้ามาเมืองไทยในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ทำเสนอเสนาบดีกระทรวงต่างประเทศไว้ ที่หอสมุดสำหรับนครแห่ง ๑ เปนเรื่องเบ็ดเตล็ดที่เกี่ยวกับเมืองไทยในเวลานั้น มีทั้งต้นฉบับและสำเนาจดหมายเหตุที่เก็บอยู่ตามกระทรวงต่าง ๆ ศาสตราจารย์ ยอช เซเดส์ ขอคัดมาได้ในคราวนั้นแต่ ๓ แห่ง ที่กระทรวงทหารเรือยังไม่ได้มา แต่หวังใจว่าจะได้มาในไม่ช้า จดหมายเหตุคณะพ่อค้าฝรั่งเศสที่เข้ามาตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยานี้ ว่าโดยรูปเรื่องที่เกี่ยวกับพงศาวดารก็คล้ายกับ จดหมายเหตุคณะบาด



ข หลวงฝรั่งเศส ผิดกันแต่ความมุ่งหมายของคณะ คือพวกบาดหลวงมุ่งหมายในการสาสนามาก มีเหตุการณ์อันใดเกี่ยวแก่สาสนาก็จดโดยพิสดาร พวกพ่อค้าผู้มุ่งมากอยู่ในการค้าขาย ก็จดรายละเอียดไปในทางค้าขาย ส่วนประวัติของบ้านเมืองใครรู้เห็นอย่างไรก็จดอย่างนั้น ข้อความจึงตรงกันบ้าง แผกเพี้ยนกันบ้าง เพราะเปนธรรมดาของคนภายนอกจะล่วงรู้เหตุการณ์บ้านเมืองภายในให้ ละเอียดนั้นยาก จดหมายเหตุที่คนในสมัยนั้นจดไว้ ถึงจะไม่แจ่มแจ้งทีเดียว ก็ยังเปนหนังสือที่ช่วยความรู้ในพงศาวดารสมัยนั้น เพราะเปนเรื่องที่ได้ยินแก่หูรู้เห็นด้วยตาใกล้ความจริงโดยมาก หนังสือเรื่องนี้ตอนต้นราชบัณฑิตยสภาได้อนุญาตให้พิมพ์ไปแล้ว ๒ ภาค ภาค ๑ อยู่ในประชุมพงศาวดารภาคที่ ๔๐ ภาค ๒ อยู่ในประชุมพงศาวดารภาคที่ ๔๑ ภาคนี้เปนภาคที่ ๓ นับเปนประชุมพงศาว ดารภาคที่ ๔๒ ขุนรัชฏกิจพิพัฒน์ (สมบุญ ทวีศรี) พิมพ์ในงารปลงศพนางรัชฎกิจพิพัฒน์ (เทียบ ทวีศรี) ผู้เปนภรรยา หวังใจว่าผู้ได้รับไปอ่านคงจะพอใจและอนุโมทนา.


ราชบัณฑิตยสภา วันที่ ๒๗ ตุลาคม พระพุทธศักราช ๒๔๗๐ ประวัติ นางรัชฎกิจพิพัฒน เทียบ ทวีศรี เปนบุตร์นายเทศ นางเป่อว ทวีศรี เปนบุตร์คนที่หนึ่ง เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีเถาะ พ.ศ. ๒๔๓๔ ต่อมาเกิดน้องอีกคนหนึ่งเปนผู้หญิง แต่ได้ตายเสียแต่อายุยังเยาว์ นางรัชฎกิจพิพัฒนอายุได้ ๑๑ ปี นางเป่อวผู้เปนมารดา ก็ตายจากไปอีก ในระหว่างนี้มีนางเหรียญเปนเพื่อนบ้าน เปนผู้รักใคร่กันกับนางเป่อวผู้เปนมารดาเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ได้อุปการะเลี้ยงดูตลอดมาจนถึงอายุ ๒๑ ปี จึงได้ทำการสมรส ในระหว่างอยู่กับสามีได้มีบุตร์ด้วยกัน ๒ คน คนหนึ่งเปนชายเกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘ อีกคนหนึ่งเปนหญิงเกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒ ครั้นถึงวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๘ นางรัชฎกิจพิพัฒน เริ่มป่วยเปนโรคไตพิการ แพทย์ที่มีความรู้แผนปัจจุบันและโบราณ ได้รักษาพยาบาลโดยเต็มมือ อาการมีแต่ประทังและซุด ถึงวันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๘ นางรัชฎกิจพิพัฒนถึงแก่กรรม คำณวนอายุได้ ๓๔ บริบูรณ์ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำการสมรสก็ดี หรือทำการสมรสแล้วก็ดี เปนผู้ประกอบไปด้วยความอุส่าห์มีน้ำใจอดทนต่อกิจการ ในการที่แสวงหาทรัพย์ และเปนผู้เก็บหอมรอมริบ รู้การได้เสียซึ่งสมควรและไม่สมควร นอกจากนั้นเปนผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต มีศีลาจารวัตการปฏิบัติตนไปในทางดีงาม มีความโอบอ้อมอารีเปนที่นับถือแห่งญาติมิตร์โดยมาก


สารบารพ์ ว่าด้วยราชทูตสยามถึงเมืองบันตำ หน้า ๑ ว่าด้วยการรับราชทูตที่อังกฤษ " ๒ ราชทูตสยามออกจากอังกฤษ " ๓ ว่าด้วยกำหนดจะให้ราชทูตสยามเที่ยวดูสถานต่าง ๆ " ๔ ว่าด้วยรายการที่รับราชทูตสยาม " ๖ ว่าด้วยราชทูตสยามไปดูละคอน " ๑๑ ว่าด้วยราชทูตสยามเที่ยวลาจะกลับเมืองไทย " ๑๒ ว่าด้วยรายการขากลับของราชทูตสยาม " ๑๓ ว่าด้วยเชอวาเลียเดอโชมองทูตฝรั่งเศสเข้ามาสยาม " ๑๕ ว่าด้วยเชอวาเลียเดอโชมองมาถึงปากน้ำเจ้าพระยา " ๑๕ ว่าด้วยไทยรับรองเชอวาเลียเดอโชมอง " ๑๖ เชอวาเลียเดอโชมองขอให้ทางฝรั่งเศสคอยรับรองราชทูต ไทยให้เกียรติยศอย่างที่ตนเข้ามา " ๑๗ บันทึกต่าง ๆ ที่ฝรั่งเศสเตรียมรับราชทูตสยาม " ๑๘ ระยะทางทูตสยามแต่เมืองเบรสต์ถึงปารีศ " ๒๘ ว่าด้วยราชทูตสยามเข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสแลเที่ยวชม สถานต่าง ๆ " ๓๗



ข บันทึกรายการราชทูตสยามกลับจากปารีศ หน้า ๔๓ บันทึกของบาดหลวงตาชาเรื่องราชทูตสยามไปเมืองปารีศ " ๕๒ ถ้อยคำที่ราชทูตสยามทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสแลราชวงศ์ เมื่อเวลาเฝ้า " ๕๖ ถ้อยคำที่ราชทูตสยามทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสแลราชวงศ์ เมื่อทูลลา " ๖๘







จดหมายเหตุของคณะพ่อค้าฝรั่งเศส ซึ่งเข้าเมาตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยา ตอนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ต่อจากภาค ๒ ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๔๒)

ประเทศสยาม ค.ศ. ๑๖๘๑ ( พ.ศ. ๒๒๒๓) ข้อความย่อค้นและคัดจากจดหมายเหตุต่าง ๆ อันกล่าวถึงการรับรองราชทูตของพระเจ้ากรุงสยาม วันที่ ๒๕ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๑ (พ.ศ. ๒๒๒๓) คัดจากจดหมายมองซิเออร์กิลเลมเขียนจากเมืองบันตำ ถึงผู้อำนวยการบริษัทฝรั่งเศสฝ่ายอินเดียตวันออก เรือชื่อเลอโวตูร์ได้มาถึงเมืองนี้พร้อมด้วยราชทูตสยาม ๓ นาย เมื่อวันที่ ๑๐ (มกราคม) ได้เดินทาง ๑๖ วันจึงถึง เมื่อวันที่ ๑๔ (มกราคม) ราชทูตสยามได้ขึ้นบก มองซิเออร์กิลเลมได้ไปรับ ราชทูตสยามบนเรือ และได้พาไปส่งที่บ้านซึ่งได้จัดเตรียมไว้โดย ให้เกียรติยศแก่ราชทูตสยามทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ มองซิเออร์กิลเลมได้ให้เอาพรมอย่างดีที่สุดที่จะหาได้ ไปปูในที่พักของราชทูตสยาม




๒ เพื่อแสดงให้ราชทูตเห็นว่าประเทศฝรั่งเศสมีความนับถือไทยและบริษัทฝรั่งเศสมีความปีติยินดีในพระราชไมตรีของ พระเจ้ากรุงสยามด้วย ราชทูตสยามได้เห็นจัดการรับรองเช่นนี้ก็มีความยินดีมาก และได้แสดงให้เห็นว่าการที่มองซิเออร์กิลเลมได้จัดการรับรองให้เปน เกียรติยศเช่นนี้ เปนสิ่งที่ราชทูตสยามจะไม่มีเวลาลืมเลย ราชทูตสยามได้คุมเครื่องราชบรรณาการ และของฝากมาด้วยเปนอันมาก เครื่องราชบรรณาการนั้นสำหรับถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสและพระราชินี และมีของสำหรับพระราชทานมกุฏราชกุมารท่านดุกดอ ลิยังและคนอื่น ๆ อีกเปนอันมาก


ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) สำเนาคำสั่งของสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ เขียนที่กรุงศรีอยุธยา ให้ไว้แก่มองซิเออร์วาเชและมองซิเออร์ปาศโก มิชันนารีฝรั่งเศสซึ่งจะกำกับราชทูต ( เอนวอย ) ของพระเจ้ากรุงสยาม ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) วันเดือนไม่มี จดหมายมองซิเออร์แฟมาเนล ถึง มาควิศเดอเซเนเล มองซิเออร์แฟมาเนลนำส่งจดหมายฉบับ ๑ ที่นักพรตผู้ ๑ ที่มากับราชทูต (เอนวอย) ของพระเจ้ากรุงสยาม ได้เขียนถึงสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ


๓ มองซิเออร์แฟมาเนล บอกมาว่าที่ประเทศอังกฤษได้จัดการต้อนรับราชทูต (เอนวอย) สยามอย่างดีมาก มองซิเออร์จึงหวังใจว่า เมื่อถึงฝรั่งเศสแล้ว คงจะต้อนรับราชทูตสยามดียิ่งกว่าที่ประเทศอังกฤษขึ้นไปอีก เพราะเห็นว่าถ้าราชทูตสยามได้รู้สึกพอใจแล้วก็จะเปนพระเกียรติยศแก่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสยิ่งขึ้น มองซิเออร์แฟมาเนลเชื่อว่าเวลานี้ราชทูตสยามกำลังเดินทางไปกรุงปารีศอยู่แล้ว และราชทูต (เอนวอย) สยามอยากจะทราบว่าจะให้ปฏิบัติการอย่างไป แฟมาเนลถามว่าจะไม่ควรพาราชทูตไปชมตำบลเวอซาย ตำบลแซนต์เยอร์แมง วังเลอลูฟร์ด้วยหรืออย่างไร และมองซิเออร์แฟมาเนล ออกความเห็นว่า ควรจะทำให้ราชทูตสยามเข้าใจและรู้สึกใน การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมีไชยชนะในการสงครามด้วย


วันที่ ๗ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) คัดจากจดหมายมองซิเออร์แฟมาเนล ถึง มาควิศเดอเซเนเล มองซิเออร์แฟมาเนลนำส่งจดหมายถึงมองซิเออร์เดอครัวซี ฉบับ ๑ เพราะข้าราชการไทยได้รับคำสั่งให้ไปหามองซิเออร์เดอครัวซี และข้าราชการไทยได้นำของต่าง ๆ จะมอบกับมองซิเออร์เดอครัวซีด้วย ของต่าง ๆ นี้ จะควรแจกจ่ายให้ใครหรือจะควรเอาไปทำอะไร


๔ ก็แล้วแต่มองซิเออร์เดอครัวซีจะเห็นควร ราชทูต (เอนวอย) สยามได้ออกจากกรุงลอนดอนแล้ว และได้ลงเรือพระที่นั่งย้อตของพระเจ้ากรุงอังกฤษ มองซิเออร์แฟมาเนลเข้าใจว่าในเวลานี้ราชทูตสยามคงจะได้ออกจากเมืองคาเลแล้ว ถ้ามองซิเออร์แฟมาเนลทราบว่าราชทูต (เอนวอย) สยามได้มาถึงเมื่อใด ก็จะได้รีบแจ้งความไปให้มองซิเออร์แคลรำโบทราบโดยเร็ว เพื่อผู้ที่มีน่าที่จะคอยต้อนรับราชทูตที่ตำบลแซนต์เดนีซ์นั้นจะได้รู้ตัวทัน มองซิเออร์แฟมาเนลคอยรับคำสั่งเรื่องรถม้าซึ่งราชทูตสยามจะต้องการใช้ในระหว่างเวลา ที่พักอยู่ที่กรุงปารีศ


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์คูเมตซ์ณตำบลชำบอค์ วันที่ ๙ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) ด้วยพระเจ้าแผ่นดิน (ฝรั่งเศส) ได้มีรับสั่งให้ข้าพเจ้าแจ้งมา ยังท่านว่า ในไม่ช้าจะมีราชทูต (เอนวอย) ของพระเจ้ากรุงสยาม จะมาถึงกรุงปารีศอยู่แล้ว เพราะฉนั้นจึงมีพระราชประสงค์ให้ท่านได้ออกคำสั่งให้เจ้าพนักงารพาราชทูต (เอนวอย) ของพระเจ้ากรุงสยาม ไปดูพระราชวังตวิเลอรี พระราชวังเลอลูฟร์แลคลังเก็บของหลวงด้วย


๕ คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์บองตัง ลงวัน ๆ เดียวกัน ด้วยพระเจ้าแผ่นดิน (ฝรั่งเศส) ได้มีรับสั่งให้ข้าพเจ้าแจ้งให้ท่านทราบว่า ในไม่ช้า ราชทูต (เอนวอย) ของพระเจ้ากรุงสยาม ๒ นายจะได้มาถึงกรุงปารีศอยู่แล้ว จึงมีพระราชประสงค์ว่า เมื่อราชทูตสยามได้มาถึงพระราชวังเวอซายแล้ว ก็ให้ท่านพาราชทูตไปชมพระราชวังและตำบลเวอซายในแห่งที่งดงามทุก ๆ แห่ง


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์แฟมาเนล ลงวันที่ ๗ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) ข้อความในจดหมายของท่านอันไม่มีวันเดือนซึ่งท่านได้มีมายังข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าได้นำความกราบทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรง ทราบทุกประการแล้ว พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงเห็นชอบด้วยในการ ที่จะพาราชทูต (เอนวอย) ของพระเจ้ากรุงสยามไปดูสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองแฟลนเดอร์ตลอดจนถึงเมืองดันเคิก เมื่อท่านได้รับจดหมายฉบับนี้แล้ว ถ้าราชทูสยามยังไม่ถึงเมืองคาเลก็ให้ท่านคอยอยู่ เมื่อราชทูตมาถึงเมื่อใดก็ให้พาราชทูตไปดูสถานที่ต่าง ๆ ทุกแห่ง แล้วจึงพามายังกรุงปารีศ


๖ ข้อความต่าง ๆ ต่อไปนี้เปนข้อความอ้างถึงจดหมายที่มีไปถึงมองซิเออร์บองตัง และมองซิเออร์คูเมตซ์


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์แคลรำโบ ลงวันที่ ๑๑ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) ในเวลาที่ราชทูต (เอนวอย) สยามมาพักอยู่ที่กรุงปารีศนั้น เปนการจำเปนที่จะต้องหารถไว้ให้ราชทูตใช้ เพราะฉนั้นให้ท่านสั่งให้จัดการหารถไว้ให้ราชทูตสยามใช้ตลอดเวลาที่ราชทูตจะได้พักอยู่ในกรุงปารีศ


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์แฟมาเนล ลงวันเดียวกัน ด้วยข้าพเจ้าได้รับจดหมายของท่านลงวันที่ ๗ เดือนนี้ กับจดหมายของท่านที่ส่งมาให้มองซิเออร์เดอครัวซีนั้น ก็ได้รับแล้วเหมือนกัน ข้าพเจ้าได้สั่งมองซิเออร์แคลรำโบไปแล้วให้จัดการหารถไว้สำหรับราชทูต (เอนวอย) ของพระเจ้ากรุงสยามในเวลาที่ราชทูต จะได้พักอยู่ในกรุงปารีศ และในข้ออื่น ๆ ที่ท่านได้ขอร้องมาสำหรับราชทูตนั้น ข้าพเจ้าได้จัดส่งไปเสร็จแล้ว


๗ วันที่ ๑๔ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) คัดจากจดหมายมองซิเออร์วาเชมิชันนารีณกรุงปารีศ ถึง มาควิศเดอเซเนเล ด้วยพระเจ้ากรุงสยามได้คัดเลือกให้ข้าพเจ้ามาพร้อมกับราชทูต (เอนวอย) ของพระองค์ ข้าพเจ้าจึงขอแจ้งให้ท่านทราบว่าราชทูตสยามได้มาถึงกรุงปารีศแล้ว ข้าพเจ้าจะได้รอรับคำสั่งของท่านแล้วแต่ท่านจะได้สั่งมา เพื่อจะได้จัดการทั้งปวงให้สมพระราชประสงค์ของพระเจ้ากรุงสยามต่อไป


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์แฟมาเนล ลงวันที่ ๒๐ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) เขียนที่ตำบลฟอนเตนบโล ถ้ามองซิเออร์วาเชผู้ที่มากับราชทูต (เอนวอย) สยามจะมา ที่นี่ได้จะเปนการดี เพราะฉนั้นขอท่านได้บอกให้มองซิเออร์วาเชทราบด้วย และให้มองซิเออร์วาเชมาถึงนี่ก่อนวันจันทร์ปี ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) ค่าอาหารการรับประทานของราชทูต (เอนวอย) สยาม ตั้งแต่วันที่ ๕ เดือนตุลาคมซึ่งเปนวันถึงเมืองคาเล ถึงวันที่ ๑ เดือนพฤศจิกายน เปนเงินรวม ๒๐๒๑ แฟรง


๘ ค่ารถและค่าพาหนะต่าง ๆ ตั้งแต่เมืองคาเลถึงกรุงปารีศ ค่าเช่าบ้านและค่าเช่ารถที่กรุงปารีศรวมเปนเงิน ๑๐๐๖ แฟรง รวมทั้งสิ้น ๓๐๒๗ แฟรง


คัดจากจดหมายเหตุ แมคูร์กาลัง ประจำเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) น่า ๓๐๖ ราชทูตแห่งประเทศสยามได้มาถึงแล้ว ท่านมาควิศเดอเซเนเล ได้จัดให้เจ้าพนักงารพาราชทูตสยามไปยังกรุงปารีศ และโสหุ้ยรายใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ออกพระราชทรัพย์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ราชทูตสยามได้ไปหาท่านมาควิศเดอเซเนเลแล้ว


คัดจากจดหมายเหตุ แมคูร์ ประจำเดือน ธันวาคม ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) น่า ๒๔๕ และหนังสือพิมพ์กาเซต ประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) น่า ๗๕๖ เมื่อวันที่ ๑๖ เดือนพฤศจิกายน เจ้าพนักงารได้นำข้าราชการผู้เปนราชทูต (เอนวอย) ของพระเจ้ากรุงสยามไปพักยังบ้านของ ท่านมาควิศเดอเซเนเล เซเกรตารีออฟสเต๊ตท่านราชทูตได้มาในรถ ๒ หลัง ท่านมาควิศเดอเซเนเลได้คอยรับราชทูตสยามอยู่ในห้องว่า


๙ ราชการ และได้ฟังคำชี้แจงของราชทูตซึ่งได้รับคำสั่งให้มาเจรจาในพระนามของพระเจ้ากรุงสยาม เพื่อจัดการทำความตกลงให้มีการค้าขายติดต่อกันในระหว่างไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และประเทศสยามต่อไป เมื่อได้พบปะพูดจากันเสร็จแล้ว ราชทูตสยามจึงได้นำของต่าง ๆ อันเปนของแปลก ๆ ซึ่งได้พามาจากเมืองไทย ให้แก่มาควิศเดอเซเนเล


คัดจากบาญชีเงินปี ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) บาญชีหมายเลข น่า ๔๖ วันที่ ๒๒ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) ค่าโสหุ้ยรายใช้จ่ายสำหรับราชทูต (เอนวอย) สยาม เงิน ๒๐๐๐ ๑๐๐๐


คัดจากบาญชีเงินปี ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) บาญชี น่า ๔๕ วันที่ ๒๒ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) ตามคำสั่งได้จ่ายเงินค่าโสหุ้ยรายใช้จ่ายสำหรับราชทูต(เอนวอย) สยามเงิน ๓๐๐๐ แฟรง ค่าภาษี ๖๒ แฟรง ๑๐ ซังตีม



๑๐ คัดจากหนังสือพิมพ์กาเซตน่า ๗๖๕ ประจำวันที่ ๒๗ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) เจ้าพนักงารได้นำข้าราชการผู้เปนราชทูต (เอนวอย) ของพระเจ้ากรุงสยามไปยังพระราชวังเวอซาย และมองซิเออร์วาเชมิชันนารีก็ไปด้วย ราชทูตสยามได้ไปยังห้องที่พักของมองซิเออร์เดอครัวซีเสนาบดีและเซเกรตารีออฟสเต๊ต มองซิเออร์เดอครัวซีได้คอยรับราชทูตสยามอยู่ที่ห้องทำราชการ


คัดจากบาญชีเงินปี ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) บาญชีน่า ๔๕ ประจำวันที่ ๑๓ เดือนธันวาคม ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) ค่าใช้จ่ายสำหรับราชทูต (เอนวอย) สยาม ๔๐๘๓ แฟรง ๖ ค่าภาษี ๘๓.๖.๘


คัดจากบาญชีเงินปี ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) น่า ๔๖ วันที่ ๑๘ เดือนธันวาคม ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) ค่าใช้จ่ายของราชทูต (เอนวอย) สยามเปนเงิน ๓๐๐๐ แฟรง



๑๑ ปี ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๘) วันเดือนไม่มี คัดจากจดหมายมองซิเออร์ บรีซาเซีย ถึงมาควิศเดอเซเนเล พวกขุนนาง (ไทย) มีความน้อยใจที่ไปได้รับความไม่พอใจจากเจ้าพนักงารฝรั่งเศสในคราวแรกที่ไปดูละคอน จนถึงกับพวกขุนนางไทยได้ตกลงใจจะไม่ยอมไปดูละคอนสำหรับไปถูกความไม่พอใจเช่นนี้ อีกต่อไป ตามที่ข้าราชการไทยได้ตกลงใจเช่นนี้ก็อธิบายว่า เมื่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมีพระราชดำรัสสั่งให้ทำประการใด พวกไทยก็พร้อมอยู่ที่จะทำตามพระราชโองการทุกประการ ต่การที่จะไปดูละคอนนั้นพวกข้าราชการไทยเชื่อว่าเปนด้วยมองซิเออร์วาเช และมองซิเออร์แฟมาเนลจะต้องการให้ไปเอง มิใช่พระราชประสงค์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส แต่หากมองซิเออร์วาเชและมองซิเออร์แฟมาเนลเอาพระราชโองการมาอ้างเอาเองต่างหาก พวกข้าราชการไทยได้ตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องการเข้าเฝ้าเพื่อถวายบังคมลากลับ เพราะฉนั้นควรจะเขียนจดหมายถึงมองซิเออร์บลองโด บอกว่าเปนอันตกลงให้ข้าราชการไทยได้เฝ้า เพื่อถวายบังคมลาตามประสงค์ และให้บอกต่อไปด้วยว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมีพระราชประสงค์จะให้ขุนนางไทยได้ดูละคอน จดหมายที่จะมีไปถึงมองซิเออร์ บลองโดฉบับนี้ ควรให้หาเวลาที่มองซิเออร์วาเชไม่อยู่ จึงให้มองซิเออร์บลองโดนำจดหมายฉบับนี้ให้ล่ามดูเสีย เพราะพวกขุนนาง


๑๒ ไทยมีความสงไสยไม่ใคร่ไว้ใจมองซิเออร์วาเชแล้ว เมื่อล่ามได้เห็นจดหมายแล้วจะได้เล่าให้พวกขุนนางไทยฟังว่าตัว ได้เห็นเปนพยานเอง ขอให้ท่านสังเกตอีกข้อ ๑ ว่าการที่จะให้มองซิเออร์วาเชไปดูละคอนโดยไม่ได้รับคำสั่งนั้น ดูจะเปนการไม่เหมาะเลย เพราะผู้ที่เปนมิชันนารีไม่ควรจะมาเกี่ยวข้องในการรื่นเริงเช่นนี้เลย


คัดจากบาญชีเงินปี ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) น่า ๔๖ ลงวันที่ ๑๖ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๗) ค่าโสหุ้ยการใช้จ่ายสำหรับราชทูต (เอนวอย) สยาม ๑๐๐๐ แฟรง


คัดจากหนังสือพิมพ์กาเซต ปี ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๘) น่า ๓๕ ขุนนางผู้เปนราชทูต (เอนวอย) ของพระเจ้ากรุงสยาม จะได้ไปดูละคอนร้อง ซึ่งได้เล่นเปนครั้งที่ ๒ ถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ณ พระราชวังเวอซาย ณวันที่ ๑๖ เดือนมกราคม ณวันที่ ๑๗ ราชทูต (เอนวอย) สยาม ได้ไปลามองซิเออร์คอลแบเดอครัวซีเสนาบดี แลเซเกรตารีออฟสเต๊ต การที่ไปลาท่านเสนาบดีคราวนี้ได้ทำพิธีต่าง ๆ อย่างเดียวกับเมื่อข้าราชการไทยได้มาหาในคราวแรก และมองซิเออร์วาเชก็มาพร้อมกับข้าราชการ


๑๓ ไทยด้วย แล้วเจ้าพนักงารได้พาข้าราชการไทยไปลามาควิศเดอเซเนเลเซเกรตารีออฟสเต๊ต โดยมีพิธีอย่างเดียวกัน


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึงมองซิเออร์มอเรลี ลงวันที่ ๒๐ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๗) เขียนที่ตำบลซำบอ ราชทูต (เอนวอย) สยามจะออกจากกรุงปารีศเพื่อไปเมือง เบรสต์อยู่แล้ว แต่ถึงดังนั้นท่านก็ยังหาได้แจ้งให้ข้าพเจ้าทราบไม่ว่า ท่านได้จัดการในเรื่องนี้ไปแล้วประการใด และท่านได้สั่งผู้ที่จะต้องไปกับราชทูตสยามอย่างไร แต่เปนกาจำเปนที่ข้าพเจ้าจะต้อง พบกับผู้ที่จะไปกับราชทูตสยาม และจำเปนที่ท่านจะต้องมาหาข้าพเจ้า ณที่นี้ เพื่อจะได้พูดกันในเรื่องนี้ต่อไป


คัดจากบาญชีเงิน ปี ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๘) น่า ๔๑ ประจำวันที่ ๒๐ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๗) จ่ายให้มองซิเออร์เดอลีล ค่ารถสำหรับราชทูต (เอนวอย) สยาม ๘๐๐ แฟรง จ่ายให้มองซิเออร์เรนยัง ณ วันเดียวกันเปนค่าใช้จ่ายของราชทูตสยาม ๒๐๐๐ แฟรง


๑๔ หนังสือเดิรทางสำหรับมองซิเออร์เดอลิศต์ ซึ่งมีหน้าที่ต้องพาราชทูต (เอนวอย) สยาม ออกจากกรุงปารีศไปยังเมืองเบรสต์ ณวันที่ ๒๓ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๗) คัดจากคำสั่งของพระเจ้าแผ่นดินอันเกี่ยวด้วยการทหารเรือ น่า ๕๖


คัดจากพระราชหัตถ์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ถึงมองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๒๘ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๗) ด้วยข้าราชการ (ไทย) ได้ออกจากกรุงปารีศเพื่อไปเมืองเบรสต์ได้ ๔ วันมาแล้ว และเชอวาเลียเดอโชมองก็จะได้รีบตามไปด้วย เพราะฉนั้นให้เตรียมการทุก ๆ อย่าง และของสิ่งใดที่จะต้องบันทุกลงเรือ ลัวโซ ก็ให้รีบบันทุกเสีย และให้เตรียมการให้พร้อมเพื่อเชอวาเลียเดอโชมองได้ไปถึงเมืองเบรสต์ ก็ให้ได้ออกเรือภายใน ๒- ๓ วันทีเดียว


คัดจากบาญชีเงินประจำ ปี ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๘) น่า ๔๐ ลงวันที่ ๒๗ เดือนมีนาคม ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๗) ตามคำสั่งให้จ่ายเงินสำหรับการใช้จ่ายของราชทูต (เอนวอย) สยาม ๘๘๖๒,๑๕ ค่าภาษี ๑๘๔.๑๒.๔


๑๕ คัดจากบาญชีเงินประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๘) น่า ๔๑ วันที่ ๓๑ เดือนมีนาคม ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๗) จ่ายขาดให้มองซิเออร์เรนยัง สำหรับการใช้จ่ายของราชทูตสยาม ๖๐๖๒,๑๕


ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) จดหมายบันทึกของเชอวาเลียเดอโชมอง กล่าวถึงการ ที่ควรจะทำสำหรับรับรองราชทูตสยาม เทียบกับการที่ พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงรับรองเชอวาเลียเดอโชมอง เมื่อปี ค.ศ. ๑๖๘๖ ( พ.ศ. ๒๒๒๙ ) เมื่อข้าพเจ้าได้มาถึงสันดอนแม่น้ำเจ้าพระยา ข้าพเจ้าได้จัดให้มองซิเออร์เลอวาเชมิชันนารีล่วงหน้าไปก่อน เพื่อไปบอกให้ทราบว่า ข้าพเจ้าได้มาถึงแล้ว พอพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงทราบก็ได้มีรับสั่งให้ข้าราชการในราชสำนัก ๒ นายลงมาหาข้าพเจ้า เพื่อแสดงความยินดีในการที่ข้าพเจ้าได้เดิรทางมาโดยสวัสดิภาพ และเพื่อแสดงว่าพระเจ้ากรุงสยามทรงพระโสมนัสยินดียิ่งนักที่ได้ทรงเห็นราชทูตของ พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้มาถึงพระราชอาณาจักร์สยาม กับรับสั่งให้มาสืบว่าการที่ข้าราชการไทยได้ไปถึงเมืองเบรสต์เราได้จัดการรับรอง อย่างไร เพื่อทางฝ่ายไทยจะได้รับรองให้เหมือนกันเปนการตอบแทน


๑๖ ภายหลังอีกสี่ห้าวัน พระเจ้ากรุงสยามได้มีรับสั่งให้ข้าราชการอีก ๒ นายอันมียศใหญ่กว่าข้าราชการที่มาแล้วให้มาหาข้าพเจ้า และเชิญกระแสรับสั่งมาบอกข้าพเจ้าว่า ถ้าข้าพเจ้าจะต้องการขึ้นบกเมื่อไรก็ได้แล้วแต่ใจข้าพเจ้า เพราะได้ทรงจัดการทั้งปวงคอยต้อนรับข้าพเจ้าเสร็จแล้ว และว่าพระเจ้ากรุงสยามทรงคอยข้าพเจ้าอยู่แล้วด้วย ในวันนั้นเองข้าพเจ้าจึงได้ลงเรือเล็กขึ้นไปจนถึงปากน้ำจึงได้พบเรือยาวของพระเจ้ากรุงสยาม ๕ ลำ ๆ ๑ นั้นสำหรับตัวข้าพเจ้า เปนเรือที่งามอย่างที่สุด อีก ๔ ลำเปนเรือสั้นกว่าเรือของข้าพเจ้าสำหรับบันทุกข้าราชการที่มากับข้าพเจ้า และยังมีเรืออื่น ๆ อีกหลายลำ สำหรับบันทุกบ่าวไพร่และคนใช้ของข้าพเจ้า มีข้าราชการไทย ๒ นาย มาคอยต้อนรับและคอยพาไปส่งถึงที่พัก ครั้นได้เดิรเรือขึ้นไปได้หนทางประมาณ ๑ ไมล์ ก็พบผู้รักษาบางกอก และผู้รักษาเมือง เพ็ชรบุรีกับขุนนางข้าราชการและคนใช้พาเรือยาวมาประมาณ ๔๐ ลำ มาคอยต้อนรับอยู่ ผู้รักษาเมืองบางกอกและผู้รักษาเมืองเพ็ชรบุรี ได้ไปกับข้าพเจ้าจนถึงที่พักนอน และได้ไปด้วยตลอดถึงกรุงศรี อยุธยา เมื่อไปถึงที่พักนอนและเมื่อถึงที่รับประทานอาหาร ได้มีข้าราชการชั้นต่ำหลายคนมาคอยรับรองอยู่ และเมื่อไปถึงเมืองใด ผู้รักษาเมืองนั้น ๆ พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าพนักงารในเมืองนั้น


๑๗ ก็คอยต้อนรับข้าพเจ้าอยู่ ถ้าที่ใดมีปืนใหญ่เจ้าพนักงานก็ได้ยิงปืนใหญ่คำนับข้าพเจ้าทุกแห่ง ถ้าเวลาที่ราชทูตสยามจะไปประเทศฝรั่งเศสนั้น เมื่อราชทูตไปถึงเมืองเบรสต์แล้ว ก็ควรจะเอารถที่นั่งของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสไปคอยรับ และเมื่อราชทูตสยามได้ผ่านไปถึงเมืองใดตำบลใด ก็ควรจะจัดการรับรองให้เปนเกียรติยศเหมือนกับที่ไทยได้รับรองข้าพเจ้าในคราวนี้ และเมื่อถึงที่รับประทานอาหารกลางวันและกลางคืน ก็ควรจะให้มีข้าราชการมาคอยต้อนรับทุก ๆ วัน ที่สำหรับให้ราชทูตสยามพักรับประทานอาหารนั้น ก็ควรจะเลือกฉเพาะทำเลที่เปนทำเลชั้นที่ ๑ และควรจะให้พักตามบ้านที่สมควรที่สุด เพราะในส่วนตัวข้าพเจ้านั้น เมื่อไปพักในบ้านหลังใด ก็เปนบ้านที่ไทยได้จัดทำขึ้นโดยฉเพาะ และได้ตกแต่งประดับประดาอย่างงดงามที่สุดทุกแห่ง ในที่พักของข้าพเจ้าทุกแห่ง มีแท่นใหญ่ ๑ แท่นดาดผ้าไหมทอง มีเก้าอี้ใหญ่ ๑ ตัว หมอนอย่างงาม ๆ หลายหมอน และขุนนางไทยก็ตามไปส่งข้าพเจ้าจนถึงแท่นที่พักแล้วจึงถอยออกไป เพราะฉนั้นถ้าราชทูต สยามไปถึงประเทศฝรั่งเศสแล้ว ถ้าที่เมืองใดมีปืนใหญ่ก็ควรจะให้ยิงปืนใหญ่รับเปนคำนับทุกแห่ง เมื่อเวลาราชทูตสยามจะเข้ากรุงปารีศ ก็ควรจะจัดการให้ราชทูตได้เข้ากรุงเปนเกียรติยศให้งามที่สุดที่จะทำได้ เพราะเมื่อข้าพเจ้าได้เข้ากรุงศรีอยุธยานั้น ไทยได้จัดการรับรองข้าพเจ้าอย่างใหญ่โตงดงามมาก จะหาสิ่งใดมาเปรียบไม่ได้


๑๘ และไทยได้ให้เกียรติยศพิเศษแก่ข้าพเจ้าหลายอย่างแปลกกว่าราชทูต ทั้งปวงที่ได้เคยไปเจริญทางพระราชไมตรีกับเมืองไทยมาแล้ว จนที่สุดราชทูตประเทศมงคล* ประเทศเปอเซีย และประเทศจีน ก็มิได้รับเกียรติยศพิเศษดังข้าพเจ้า และข้อนี้เปนเรื่องที่รู้ได้แน่จริง เพราะไทยเปนคนที่พิถีพิถันมาก เมื่อทำการสิ่งใดลงไปแล้ว ก็ต้องจดไว้เปนลายลักษณ์อักษรเสมอ


คัดจากจดหมายบันทึกที่เกี่ยวด้วยพิธีการต่าง ๆ ประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ว่าด้วยจะจัดการรับราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามในประเทศ ฝรั่งเศสอย่างไร เมื่อราชทูตสยามมาถึง ให้ยิงปืนใหญ่รับทุกแห่ง หัวหน้าราษฎร (หลอดแมร์) และเจ้าพนักงารเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ในเมืองใหญ่ ๆ นั้น ให้ออกไปคอยรับราชทูตสยามที่ประตูเมือง เมื่อราชทูตมาถึงก็ให้กล่าววาจาต้อนรับแล้วจึงให้ของต่าง ๆ ตามแต่จะได้ตกลงกันไว้ว่าจะให้อะไรบ้าง ให้ส่งรถปิดทองไปคอยรับราชทูตสยามที่เมืองออลิยัง และทางที่จะเดิรนั้นก็ให้เดิรผ่านตำบลฟอนเตนบโล เมื่อราชทูตสยามไปถึงเมืองออลิยัง พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะได้จัดข้าราชในพระราชสำนัก ไปคอยต้อนรับ


๑๙ ให้มองซิเออร์บอนเนย ผู้มีหน้าที่นำราชทูต ไปคอยรับราชทูตสยามที่ตำบลฟอนเตนบโล ให้พาราชทูตสยามมาที่ตำบลแวงเซนก่อน เพื่อจะได้ปรึกษาหารือทำความตกลงในเรื่องที่ราชทูตสยามจะได้เข้ากรุงปารีศ


คัดจากจดหมายมองซิเออร์เดคลูโซ ถึงมองเซนเยอร์เดอเซเนเล เขียนที่เมืองเบรสต์ ณวันที่ ๑๘ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มองซิเออร์เดคลูโซบอกว่าเรือลัวโซได้มาถึงแล้ว ผู้ที่มาในเรือลัวโซนั้น มีมองซิเออร์เดอโชมองกับราชทูตสยาม มองซิเออร์เดคลูโซได้ทำความตกลงกับมองซิเออร์เดอโซมองว่า เมื่อราชทูตสยามได้ก้าวขึ้นบกเวลาไร ก็จะได้จัดการรับรองโดยให้เกียรติยศที่สุดที่จะทำได้


คัดจากจดหมายมาควิศเดอลาวาแดงอามอเล ถึงมาควิศเดอเซเนเล ลงวันที่ ๒๑ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอลาวาแดงอามอเล ถามมาว่า เมื่อราชทูตสยามมาถึงแล้วจะให้จัดการรับรองให้เปนเกียรติยศอย่างไรบ้าง และถ้าได้


๒๐ พาราชทูตสยามเดิรทางบกมาแล้ว จะให้ทำอย่างไร เพราะราชทูตสยามจะต้องเดิรทางในเขตที่มาควิศเดอ ลาวาแดงอามอเลปกครองอยู่ถึง ๕๐ ไมล์


คัดจากจดหมายมองซิเออร์เดคลูโซ ถึงมาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองเบรสต์ ณวันที่ ๒๑ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) บุษบก ภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่าเครื่อง (Machine) ที่ทำมาจากเมืองไทยสำหรับบันจุพระราชสาสนที่จะมาถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนั้นได้ชำรุดมาตามทาง มองซิเออร์เดคลูโซได้จัดช่างลงไปในเรือลัวโซ เพื่อไปซ่อมแซมบุษบก เพราะราชทูตสยามไม่ยอมขึ้นจากเรือ นอกจากจะขึ้นมาพร้อมกับบุษบกและพระราชสาสน มองซิเออร์เดคลูโซได้ไปจัดการกับนายโฮเตลที่เมืองเบรสต์ สำหรับจัดที่ให้ผู้ที่มากับราชทูตสยามมีจำนวนเกือบ ๔๐ คนพักและรับประทานอาหาร ส่วนตัวราชทูตสยามนั้น มองซิเออร์เดคลูโซจะได้ให้พักในบ้านของมองซิเออร์เดคลูโซเอง และจะได้จัดหาอาหารให้รับประทานอย่างดีที่สุดที่จะหาได้



๒๑ คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึงมองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๒๔ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเลบอกมาให้มองซิเออร์เดคลูโซทราบว่า ได้มีจดหมายสั่งให้มองซิเออร์โวดรีคูร์ให้พาเรือออกจากท่าเรือเมือง เบรสต์และให้ไปจอดเรือที่ท่าฮาฟร์เดอกราช เพื่อให้ราชทูตสยามซึ่งอยู่ในเรือนั้นได้ขึ้นบก เวลานี้มาควิเดอเซเนเลยังรอฟังข่าวว่าเรือจะออกจากท่าเมือง เบรสต์เมื่อไรและได้จัดนักการให้ไปคอยรับหนังสือตอบด้วยแล้ว


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึงมองซิเออร์โวดรีคูร์ ลงวันที่ ๒๔ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเลได้นำความกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ให้ทรงทราบว่ามองซิเออร์โวดรีคูร์ ได้มาถึงเมืองเบรสต์แล้ว จึงมีรับสั่งให้มาควิศเดอเซเนเลมีจดหมายมายังมองซิเออร์โวครีคูร์ว่า มี พระราชประสงค์ให้มองซิเออร์โวดรีคูร์แล่นใบออกจากเมืองเบรสต์ ไปยังท่าฮาฟร์เดอกราช เพื่อไปส่งราชทูตสยามให้ขึ้นบกณที่นั้น แล้วให้นำราชทูตสยามมอบไว้กับมองซิเออร์เดอมองมอต่อไป


๒๒ คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึงมองซิเออร์มองมอ มาควิศเดอเซเนเลแจ้งให้มองซิเออร์มองมอทราบตามข้อความ ที่ได้สั่งไปยังมองซิเออร์เดคลูโซแล้ว และบอกให้ทราบว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมีพระราชประสงค์ให้ราชทูตสยามได้อยู่ในที่สบาย และให้หาของเครื่องใช้ต่าง ๆ ไว้ให้ราชทูตสยามด้วย ในระหว่างที่ข้าราชการในราชสำนักของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ซึ่งได้โปรดจัดให้ไปรับราชทูตสยาม ยังไปไม่ถึงนั้น ก็ให้มองซิเออร์มองมอจัดการทั้งปวงตามที่ได้กล่าวมาแล้ว


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึงมองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๒๕ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเลบอกมาให้มองซิเออร์เดคลูโซทราบว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงเปลี่ยนพระราชดำริห์แล้ว คือที่มีรับสั่งในชั้นเดิมให้เรือลัวโซออกจากเมืองเบรสต์ไปยังท่าฮาฟร์เดอกราชนั้นโปรด ให้งดเสีย เพราะฉนั้นในส่วนราชทูตสยามที่มากับเรือลัวโซนั้น พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้โปรดจัดให้มองซิเออร์สตอฟ ข้าราชการในราชสำนักลงไปยังเมืองเบรสต์ เพื่อไปต้อนรับและนำราชทูตสยาม และมองซิเออร์สตอฟจะได้ออกจากกรุงปารีศไปเมืองเบรสต์ ในวัน


๒๓ พรุ่งนี้ เพราะฉนั้นในระหว่างที่มองซิเออร์สตอฟยังไปไม่ถึง เมืองเบรสต์นั้น ก็ให้มองซิเออร์เดคลูโซเปนธุระจัดการหาเครื่องใช้ต่าง ๆ ให้แก่ราชทูตสยาม และให้มองซิเออร์เดคลูโซจัดหารถเตรียมไว้เพื่อรับราชทูตสยามเดิรทางบกไปเมืองนานต์ เมื่อมองซิเออร์สตอฟได้ไปถึงเมืองเบรสต์แล้ว ก็ให้มองซิเออร์เดคลูโซปรึกษาหารือกับมองซิเออร์สตอฟ และถ้ามองซิเออร์สตอฟจะต้องการอย่างใด ก็ให้มองซิเออร์เดคลูโซจัดหาให้ตามความต้องการ อนึ่งมาควิศเดอเซเนเลได้จัดให้มองซิเออร์ซีลีไปยังเมืองเบรสต์แล้ว เพราะฉนั้นถ้ามองซิเออร์ซีลีจะต้องการผู้คนสำหรับในราชการของราชทูตสยาม แล้ว ก็ให้มองซิเออร์เดคลูโซจัดหาคนให้ตามความต้องการทุก ประการ ในส่วนของเครื่องราชบรรณาการและของต่าง ๆ ของราชทูตสยาม อันไม่เปนของที่จำเปนจะต้องไปพร้อมกับตัวราชทูตนั้น ก็ให้เอาสิ่งของเหล่านั้นบันทุกลงเรือเล็ก ส่งไปท่าฮาฟร์เดอกราชทางเรือ ในเรื่องนี้มาควิศเดอเซเนเลได้มีคำสั่งไปยังมองซิเออร์มองมอ ให้เปนธุระคอยรับของเหล่านี้แล้ว


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึงมองซิเออร์เดอมองมอ ลงวันที่ ๒๕ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเลบอกมาให้มองซิเออร์มองมอทราบว่า การที่จะให้ราชทูตสยามไปขึ้นบกที่ท่าฮาฟร์เดอกราชนั้น พระเจ้ากรุง

๒๔ ฝรั่งเศสได้ทรงเปลี่ยนพระราชดำริห์แล้ว และบอกให้ทราบว่า ของเครื่องราชบรรณาการและของต่าง ๆ ของราชทูตสยาม มาควิศเดอเซเนเลได้สั่งให้บันทุกลงเรือส่งไปที่ท่าฮาฟร์เดอกราชแล้ว เพราะฉนั้นเมื่อของต่าง ๆ เหล่านี้มาถึงแล้ว ก็ให้มองซิเออร์มองมอรับไว้แล้วให้ขนขึ้นจากเรือ จึงบันทุกลงเรือลำอื่นนำส่งไปยังกรุงปารีศต่อไป


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึงมองซิเออร์เดอเฟรอมอง ลงวันที่ ๒๕ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเลสั่งมา ให้มองซิเออร์เดอเฟรอมองสั่งบรรดาเสมียนพนักงารทั่วไปว่า ของต่าง ๆ ทั้งสิ้นซึ่งมองซิเออร์สตอฟข้าราชการในราชสำนัก (ฝรั่งเศส) รับรองว่าเปนของ ๆ ราชทูตสยามแล้ว ก็ให้เสมียนพนักงารปล่อยของนั้นโดยไม่ต้องตรวจตราอย่างใด


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึงมองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๒๖ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ด้วยข้าพเจ้าได้ทราบว่าราชทูตสยามมีความประสงค์จะเชิญพระราชสาสนของพระเจ้ากรุงสยามมากับบุษบก ภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่าเครื่อง (Machine) แต่บุษบกนี้ถ้าจะมาทางบกจะเปนการติดขัดและ


๒๕ ลำบากมาก เพราะฉนั้นให้ท่านชี้แจงให้ราชทูตสยามเข้าใจว่าการที่ ทำเช่นนี้ผิดด้วยแบบธรรมเนียมของประเทศฝรั่งเศส ถ้าจะนำบุษบกและของต่าง ๆ มาทางเรือมาขึ้นที่ท่าฮาฟร์จะเปนการสดวกมากกว่า และจำเปนด้วย ในส่วนพระราชสาสนนั้น ถ้าราชทูตสยามจะต้องการเชิญติดตัวไปก็ได้ เมื่อถึงกรุงปารีศแล้วถ้าราชทูตเห็นสมควรที่จะ เชิญพระราชสาสนบัญจุลงบุษบก เพื่อถวายต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็ได้ เพราะบุษบกคงจะไปถึงกรุงปารีศก่อนตัวราชทูต


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์เดอลาวาแดง ลงวันที่ ๒๖ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ด้วยข้าพเจ้าได้นำความตามจดหมายของท่านที่กล่าวด้วยเรื่อง ราชทูตสยามขึ้นกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสแล้ว ทรงพระราชดำริห์เห็นว่าในเวลาที่ราชทูตสยามจะได้ผ่านเมืองต่าง ๆ ในมณฑลของท่านนั้น ยังไม่จำเปนที่จะทรงกะการว่าจะควรรับรองราชทูตสยามอย่างไร เพราะฉนั้นให้ท่านออกแต่คำสั่งให้จัดหารถเตรียมไว้เท่านั้น และถ้ามองซิเออร์สตอฟข้าราชการในราชสำนักของพระ เจ้ากรุงฝรั่งเศส จะต้องการสิ่งใดสำหรับราชทูตสยามแล้ว ก็ให้ท่านจัดหาให้ตามความต้องการของมองซิเออร์สตอฟทุกประการ


๒๖ คัดจากจดหมายมองซิเออร์เดคลูโซ ถึง มาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองเบรสต์ ลงวันที่ ๒๙ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ในระหว่างที่มองซิเออร์สตอฟ และมองซิเออร์ซีลียังไปไม่ถึงเมืองเบรสต์นั้น มองซิเออร์ เดคลูโซจะได้จัดหารถอย่างดีที่สุดเตรียมไว้สำหรับพาราชทูตสยามไปเมืองนานต์ ตั้งแต่ราชทูตสยามได้ขึ้นจากเรือก็ได้ไปพักอยู่ที่บ้านมองซิเออร์เดคลูโซ และจะได้ให้พักอยู่ในบ้านนั้นต่อไปจนกว่าจะได้ออกจากเมืองเบรสต์ ส่วนข้าราชการที่มากับราชทูตสยามนั้น มองซิเออร์เดคลูโซได้เปนธุระจัดการให้ได้มีที่พักเปนที่เรียบร้อยดีแล้ว มองเออร์เดคลูโซได้สังเกตเห็นว่าราชทูตสยามมีความพอใจ ในการรับรองและพอใจในการที่มีคนไปเยี่ยมเยือนทุก ๆ วัน


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๓๐ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเลบอกไปว่า ในการที่เกี่ยวด้วยราชทูตสยามนั้นมาควิศเดอเซเนเลทราบในพระราชประสงค์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ได้ดี การที่มองซิเออร์เดคลูโซได้ไปจัดการกับนายโฮเตลสำหรับเลี้ยงดูข้าราชการที่ไปกับราชทูตสยามนั้นเปนการชอบแล้ว และใน


๒๗ ส่วนอาหารการรับประทานของราชทูตสยามนั้น ก็ให้มองซิเออร์เดคลูโซทำบาญชีไว้เพราะไม่จำเปนจะต้องออกเงินส่วนตัวมองซิ เออร์เดคลูโซสำหรับการเลี้ยงดูราชทูตสยาม ในส่วนค่าใช่จ่ายของมองซิเออร์เดอโวดรีคูร์ที่ต้องจ่ายค่าเสบียงอาหารทั้งขาไปและขามานั้น จะต้องทราบว่ามองซิเออร์โวดรีคูร์ได้จ่ายค่าอะไรบ้าง แล้วให้ทำบาญชียื่นให้ทราบว่าเงินที่เจ้าพนักงารได้รองจ่ายให้ไป ยังเหลืออยู่หรือยังขาดอีกมากน้อยเท่าใด


คัดจากจดหมายมองซิเออร์เดคลูโซ ถึง มาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองเบรสต์ ลงวันที่ ๑ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ราชทูตสยามได้ตกลงยอมแล้วที่จะให้พาบุษบกไปทางเรือตามคำสั่งของท่าน เพราะราชทูตสยามได้รับคำสั่งมาให้กระทำตามใจเราทุกอย่าง เพราะฉนั้นมองซิเออร์เดคลูโซจะได้จัดการให้เอาบุษบก ลงบัญจุหีบเสีย และจะได้เอาบันทุกลงเรือพร้อมกับหีบของอื่น ๆ ส่วนพระราชสาสนนั้นราชทูตสยามจะได้เชิญติดตัวไปด้วย บุษบกนี้ไม่ใช่เปนของใหญ่โตหนักหนาอะไร มองซิเออร์ เดอลาวาแดงได้เตรียมรถและม้าสำหรับที่จะพาราชทูตสยามไปยังเมืองนานต์ไว้พร้อมแล้ว ถ้ามองซิเออร์สตอฟ


๒๘ กับมองซิเออร์ ซีลีมาถึงเวลาใด ราชทูตสยามก็จะออกจากเมืองเบรสต์ได้ทีเดียว


คัดจากจดหมายมองซิเออร์เดอลาวาแดง ถึง มาควิศเดอเซเนเล ลงวันที่ ๓ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) รถสำหรับราชทูตสยามนั้น จะได้เตรียมไว้ให้พร้อมเสร็จในวันที่ ๖ ซึ่งเปนวันที่มองซิเออร์ เดคลูโซได้กำหนดไว้


คัดจากหนังสือพิมพ์กาเซต ประจำวันที่ ๖ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ณกรุงปารีศ น่า ๓๓๔ ข้าราชการสามนายซึ่งเปนราชทูตของพระเจ้ากรุงสยาม ซึ่งได้มาถึงเมืองเบรสต์พร้อมกับเชอวาเลียเดอโชมองนั้น ได้ออกจากเมืองเบรสต์เพื่อไปยังกรุงปารีศแล้ว น่า ๓๔๗ ของหนังสือพิมพ์กาเซตเปนข่าวเล่าถึงเรื่องที่เชอวาเลียเดอโชมองได้เปนราชทูตฝรั่งเศสไปเจริญทางพระราชไมตรีกับพระเจ้ากรุงสยาม



๒๙ คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์เดอมองมอ ลงวันที่ ๑๒ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ด้วยมองซิเออร์เดคลูโซได้มีจดหมายมายังข้าพเจ้าบอกว่า ของต่าง ๆ ที่ราชทูตสยามได้นำมานั้น มองซิเออร์เดคลูโซได้จัดบันทุกลงเรือที่เมืองเบรสต์ เพื่อส่งไปยังเมืองรูอังแล้ว เพราะฉนั้นให้ท่านแจ้งไปให้มองซิเออร์ดองเดลทราบ และให้ท่านสั่งมองซิ เออร์ดองเดลให้เปนธุระคอยรับเอาของขึ้นจากเรือ แล้วให้จัดของเหล่านั้นบันทุกลงเรือลำอื่นไปกรุงปารีศต่อไป และให้ท่านกำชับมองซิเออร์ดองเดลให้จัดการระวังทุกอย่างอย่าให้ของเหล่านั้นได้เสียหายหรือชำรุดได้


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๑๒ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ข้าพเจ้ามีความยินดีมากที่ท่านได้เอาของต่าง ๆ ของราชทูตสยามบันทุกลงเรือ เพื่อส่งไปยังเมืองรูอังแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้มีคำสั่งให้มองซิเออร์เดอมองมอเปนธุระจัดการคอยเอาของเหล่านี้ขึ้นจากเรือ แล้วให้เอาของเหล่านี้บันทุกลงเรือลำอื่นส่งมาที่นี่ต่อไป


๓๐ ข้าพเจ้าเชื่อว่าในเวลานี้ราชทูตสยามคงจะได้ออกจากเมืองเบรสต์แล้ว เพราะฉนั้นในเรื่องนี้หมดเรื่องที่ข้าพเจ้าจะต้องส่งท่านแล้ว


คัดจากจดหมายมองซิเออร์สตอฟ ถึง มาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองนานต์ ลงวันที่ ๑๖ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) วันนี้ราชทูตสยามจะได้พักอยู่ในเมืองนี้ วันที่ ๑๗ (กรกฎาคม) จะได้ออกจากเมืองนานต์เดิรทางต่อไป เพราะราชทูตสยามใจร้อนอยากจะให้ถึงเสียโดยเร็ว โดยเหตุที่นั่งรถมาไม่มีความสุขเลยเพราะรถที่ขี่มานั้นเปนรถอย่างเลว จะหาดีกว่านี้ก็ไม่ได้ ราชทูตสยามมีความพอใจมากถึงอาหารการกิน และพอใจในการรับรองด้วย ดูท่านราชทูตเหล่านี้ตั้งใจอยากจะทำให้พวกเราเปนที่พอใจ ดูเหมือนจะไม่มีใครที่จะตั้งใจดียิ่งกว่าท่านเหล่านี้ ราชทูตสยามหวังใจว่าเมื่อได้ไปถึงเมืองออลีอังแล้ว คงจะได้รับคำสั่งของท่านมาควิศเดอเซเนเลต่อไป




๓๑ คัดจากจดหมายมองซิเออร์ซีลี ถึง มาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองโซมูร์ ลงวันที่ ๑๘ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มองซิเออร์ซีลีเชื่อใจว่า มองซิเออร์สตอฟคงจะได้รายงารให้มาควิศเดอเซเนเลทราบแล้วว่า มองซิเออร์ซีลีได้ออกจากเมือง เบรสต์เมื่อวันที่ ๙ เดือนนี้ (กรกฎาคม) พร้อมด้วยมองซิเออร์สตอฟกับราชทูตสยาม มองซิเออร์ซีลีได้จัดรถเปลให้ราชทูตสยามขี่ไปตั้งแต่เมืองเบรสต์ถึงตำบลลารอชแบนาด์ จึงได้ไปพบรถมาจากเมืองนานต์จะไปตำบลวาน มองซิเออร์ซีลีจึงได้จัดการให้ราชทูตสยามถ่ายรถเสีย ดูราชทูตพอใจรถหลังนี้มากกว่ารถเปล ได้เดิรทางต่อไปด้วยรถหลังนี้จนถึงตำบลอังเย จึงได้หารถเพิ่มขึ้นอีก ๒ หลังสำหรับมองซิเออร์สตอฟ มองซิเออร์เลอวาเช ข้าราชการและเสมียนพนักงารที่มากับราชทูตสยาม ตั้งแต่ออกจากเมืองเบรสต์ก็ได้พักที่เมืองนานต์วันเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ได้รับคำสั่งเปลี่ยนแปลงอย่างใดแล้ว ก็คงจะถึงกรุงปารีศในราววันที่ ๒๗ หรือ ๒๘ เดือนนี้ (กรกฎาคม) ใบสั่งจ่ายเงิน ๓๐๐๐ แฟรง ชึ่งมาควิศเดอเซเนเลได้มอบมาก่อนมองซิเออร์ซีลีได้ออกจากตำบลพระราชวังเวอซาย เปนใบสั่งให้มองซิเออร์เดอลูแบจ่ายเงินนั้น หาเพียงพอสำหรับจะพาราชทูตสยาม


๓๒ ไปจนตลอดถึงกรุงปารีศไม่ มองซิเออร์ซีลีจึงจำเปนต้องไปเรียก เงินจากนายธนาคารที่เมืองนานต์ผู้๑เปนเงินอีก ๓๐๐๐ แฟรง เพราะค่าเช่ารถม้ากลับแพงกว่าค่าอาหารการรับประทานอีกครึ่ง ๑ สังเกตดูท่านราชทูตสยามมีความพอใจในการรับรองตามเมืองต่าง ๆ ที่ผ่านมาตลอดทางทุกแห่ง


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๒๒ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเลตอบรับจดหมายของมองซิเออร์เดคลูโซ ลง วันที่ ๘ และที่ ๑๒ เดือนนี้ (กรกฎาคม) พร้อมด้วยบาญชีหีบซึ่งบัญจุของเครื่องราชบรรณาการ และของซึ่งพระเจ้ากรุงสยามส่งมาสำหรับพระราชทาน อันได้บันทุกลงเรือรวม ๔ ลำสำหรับไปส่งเมืองรูอัง ส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อเสบียงอาหารเลี้ยงราชทูตสยามกับข้าราชการที่มากับราชทูตสยาม ซึ่งมองซิเออร์เดอโวดรีคูร์ และมองซิเออร์เดอชัวเยอได้จ่ายไปแล้วนั้น พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะได้ทรงพระราชทานเงินให้โดยทันที



๓๓ คัดจากจดหมายมองซิเออร์สตอฟ ถึง มาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองบลัว ลงวันที่ ๒๓ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) เมื่อราชทูตสยามได้ทราบถึงพระกรุณาของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และทราบถึงความเอื้อเฟื้อของมาควิศเดอเซเนเล ก็ได้มีความยินดีเปนอันมาก มองซิเออร์สตอฟได้จัดให้ราชทูตสยามพักอยู่ที่เมืองบลัว ๑ วันเพราะราชทูตที่ ๒ ไม่ใคร่จะสบาย ทั้งเปนโอกาศจะได้พักรถม้าซึ่งได้เอามาจากตำบลวานด้วย กำหนดราชทูตสยามจะได้ออกจากเมืองบลัวไปเมืองชัมบอในวันที่ ๒๔ เดือนกรกฎาคม และจะได้ออกจากเมืองชัมบอไปเมืองออลิอังในวันที่ ๒๕ เดือนกรกฎาคม


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์เปอลีซอง ลงวันที่ ๒๙ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ด้วยพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงพระราชดำริห์จะให้ราชทูตสยามไปพักอยู่ที่ตำบลแบนีสักสองสามวันก่อน จึงจะให้ราชทูตสยามเลยมายังกรุงปารีศ


๓๔ เพราะฉนั้นข้าพเจ้าได้จัดให้มองซิเออร์ดูรูไปยังตำบลแบนี เพื่อให้ไปจัดเครื่องเรือนและแต่งประดับประดาห้องที่ราชทูตสยามจะได้ พัก และในเรื่องนี้มีกระแสรับสั่งให้ท่านช่วยเหลือมองซิเออร์ดูรูทุกอย่าง และให้ท่านจัดวังแบนีคอยท่าไว้ให้ราชทูตสยามพักต่อไป


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์ดูเมตซ์ ลงวันที่ ๒๙ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเลบอกมาให้มองซิเออร์ดูเมตซ์ทราบว่า ในการที่จะให้ราชทูตสยามพักที่ตำบลแวงเซนนั้น พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้เปลี่ยนพระราชดำริห์แล้ว เพราะทรงทราบว่าวังที่ตำบลแวงเซนชำรุดไม่สมควรจะรับราชทูตสยามได้ จึงโปรดให้ราชทูตสยามไปพักที่ตำบลแบนีต่อไป เพราะฉนั้นเครื่องเรือนต่าง ๆ ต้องส่งไปยังตำบลแบนี ให้พอกับจำนวนห้องเท่ากับที่ได้จัดไว้ที่ตำบลแวงเซน


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์สตอฟ มาควิศเดอเซเนเลบอกให้ทราบถึงเรื่องการใช้จ่ายที่มองซิเออร์เรอโน นายโฮเตลได้จ่ายสำหรับราชทูตสยามคิดตั้งแต่เมืองเบรสต์เมื่อวันที่ ๙ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ. ศ. ๒๒๒๙) ตลอด


๓๕ ถึงวันที่ ๓๐ เดือนกรกฎาคม ซึ่งเปนวันที่ราชทูตสยามได้ไปถึงตำบลแบนี กับค่าใช่จ่ายต่าง ๆ ซึ่งเจ้าพนักงารฝรั่งเศสและคนของท่านราชทูตได้จ่ายไปในเวลาลงเรือที่เมืองเบรสต์ไปเมืองรูอัง และจากเมืองรูอังถึงกรุงปารีศ คือค่าอาหารการเลี้ยงท่านราชทูตสยามและข้าราชการที่มากับราชทูต ตั้งแต่เมืองเบรสต์ถึงตำบลแบนีตามบาญชีเปนเงิน ๒๘๔๔.๑๕ ต้องเพิ่มค่าโสหุ้ยใช้จ่ายของคน ๒๕ คน ซึ่งลงเรือที่เมืองเบรสต์พร้อมด้วยคนของท่านราชทูตตลอดจนถึงกรุงปารีศ เปนเงิน ๖๐๕ รวมทั้งสิ้นเปนเงิน ๓๔๔๙.๑๕ ในจำนวนเงินรายนี้ยังหาได้คิดรวมเงินค่าใช้สรอยซึ่งมองซิเออร์เดคลูโซได้จ่ายไปสำหรับราชทูตสยาม ในเวลาที่ลงเรือที่เมืองเบรสต์ไม่ ค่าพาหนะต่าง ๆ คือค่ารถเปล ค่ารถและม้าสำหรับท่านราชทูตสยามตั้งแต่เมืองเบรสต์ถึงตำบลแบนีเงิน ๕๑๙๖.๗ ค่าขนหีบออกจากเรือที่เมืองรูอังประมาณ ๓๓๒ หีบ และค่าบันทุกลงเรือส่งไปกรุงปารีศ ค่าขนหีบขึ้นจากเรือที่กรุงปารีศ และค่าขนไปส่งไว้ที่โฮเตลที่พักของราชทูตเงิน ๒๙๐. ค่าเช่าเรือบันทุกของ ๓๓๒ หีบจากเมืองรูอังถึงกรุงปารีศ ตามใบสำคัญซึ่งมองซิเออร์บลองเดลได้เซ็นไว้ที่เมืองรูอังลงวันที่ ๒๗ เดือน กรกฎาคม เงิน ๑๖๐๐. รวมทั้งสิ้นเงิน ๑๐๕๓๖.๒


๓๖ ค่าอาหารเลี้ยงท่านราชทูตสยามและข้าราชการพนักงารที่มากับท่านราชทูต รวมทั้งสิ้นเปนคน ๗๐ คน นับทั้งเจ้าพนักงารและคนใช้ที่ได้ส่งไปให้ประจำอยู่กับท่านราชทูต เงิน ๒๕๐. หนังสือพิมพ์แมคูร์ประจำเดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) น่า ๑ กล่าวถึงการติดต่อในระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับประเทศสยาม น่า ๑๓๐ กล่าวถึงการที่ราชทูตฝรั่งเศสเฝ้าถวายบังคมลาพระเจ้ากรุงสยาม น่า ๑๓๗ กล่าวถึงเครื่องราชบรรณาการถวายพระเจ้ากรุงสยาม น่า ๒๙๗ กล่าวถึงเครื่องราชบรรณาการพระเจ้ากรุงสยามส่งมาถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส น่า ๓๒๓ กล่าวถึงของต่าง ๆ ที่พระเจ้ากรุงสยามส่งมาพระราชทานมาควิศเดอเซเนเล และมองซิเออร์เดอครัวซี


คัดจากหนังสือพิมพ์กาเซต น่า ๔๑๘ ราชทูตสยามได้ออกจาก (กรุงปารีศ) วันที่ ๓ เดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ราชทูตสยามได้มาถึงวังตำบลแบนีแล้ว ตามทางที่มา เจ้าพนักงารได้จัดการต้อนรับราชทูตสยามอย่างใหญ่โตงดงามมาก


คัดจากบาญชีเงินประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) น่า ๔๑ วันที่ ๘ เดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) จ่ายเงินให้มองซิเออร์โวดรีคูร์ค่าอาหารสำหรับเลี้ยงราชทูตสยาม เงิน ๔๐๐๐.


๓๗ วันที่ ๘ เดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) จ่ายเงินให้แก่มองซิเออร์ชัวเยอค่ารับรองข้าราชการที่มากับราชทูตสยาม เงิน ๒๐๐๐.


คัดจากหนังสือพิมพ์กาเซต น่า ๔๔๑ กล่าวถึงเรื่องราชทูตสยามว่า ราชทูตสยามได้เข้ากรุงปารีศเมื่อวันที่ ๑๒ เดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) เเล้ว


คัดจากบาญชีเงินประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) น่า ๔๑ วันที่ ๑๕ เดือนสิงหาคม ค. ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ตามบาญชีประจำวันได้จ่ายเงินค่าอาหารและค่ารถสำหรับราชทูตสยาม ตั้งแต่วันที่ ๙ ถึง วันที่ ๓๐ เดือนกรกฎาคม เงิน ๑๐๕๓๖.๒ ค่าภาษี เงิน ๒๑๙.๑๐ น่า ๔๑ วันที่ ๑๕ เดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) จ่ายเงินให้แก่มองซิเอออร์เรนยัง ค่าอาหารและค่ารถสำหรับราชทูตสยาม จนถึงวันที่ ๓๐ เดือนกรกฎาคม เงิน ๑๐๕๓๖.๒


(คัดจากหนังสือพิมพ์กาเซต) น่า ๔๙๑ เรื่องราชทูตสยามเข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสที่พระราชวังเวอซาย เมื่อวันที่ ๑ เดือนกันยายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙)


๓๘ น่า ๕๔๐ เรื่องราชทูตสยามไปหามองซิเออร์เดอครัวซี เสนาบดีและเซเกรตารีออฟสเต๊ต ณกรุงปารีศ


คัดจากหนังสือพิมพ์กาเซต ออกที่กรุงปารีศ ประจำวันที่ ๒๐ เดือนกันยายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ.๒๒๒๙) น่า ๕๔๐ ข้าราชการสยามได้ไปหามองซิเออร์คอลแบเดอครัวซีที่บ้านของท่านแล้ว เมื่อวันที่ ๒๐ มองซิเออร์คอลแบเดอครัวซี ได้ไปเยี่ยมตอบที่โฮเตลเดซ์อำบาซาเดอร์


คัดจากหนังสือแมคูร์กาลัง หนังสือพิมพ์กล่าวถึงเรื่องราชทูตสยามไปเจริญพระราชไมตรี นับตั้งแต่ราชทูตสยามไปหามองซิเออร์เดอครัวซี เมื่อวันที่ ๒๔ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ.๒๒๒๙) เปนต้นไป น่า ๒๓ น่า ๓๒๗ กล่าวว่าทูตสยามได้ไปหามาควิศเดอเซเนเล หลายครั้ง มองซิเออร์ดูวิเร เอดีเตอร์หนังสือพิมพ์แมคูร์กาลัง แต่งเรื่องราชทูตสยามไปเจริญทางพระราชไม ตรีกับประเทศฝรั่งเศส ให้ไว้แก่มองเซนเยอร์เลอดุก ประจำวันที่ ๓๐ เดือนกันยายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙)


๓๙

คัดจากบาญชีเงิน น่า ๔๑ น่า ๔๒ ประจำวันที่ ๑ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ.๒๒๒๙) ค่าโสหุ้ยการใช้จ่ายของราชทูตสยามจนถึงสิ้นเดือนกันยายน เงิน ๑๘๓๑๐ ค่าภาษี ๓๘๑.๙.๒


คัดจากหนังสือพิมพ์กาเซต ประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) น่า ๕๕๒ เมื่อวันที่ ๒ เดือนตุลาคม ค.ศ.๑๖๘๖ (พ.ศ.๒๒๒๙) ข้าราชการสยามได้ไปเฝ้ามกฎราชกุมารี และเจ้านายฝ่ายหญิงในพระราชวงศ์เพื่อทูลลา น่า ๖๐๐ ราชทูตสยามได้ออกจากกรุงปารีศเมื่อวันที่ ๑๔ เดือนตุลาคม ค.ศ.๑๖๘๖ (พ.ศ.๒๒๒๙) และได้ไปชมสถานที่ต่าง ๆ


คัดจากจดหมายมองซิเออร์สตอฟ ถึงมาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองโดเบลอ ลงวันที่ ๑๘ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ.๒๒๒๙) ราชทูตสยามอยู่เปนสุขสบายดีและมีความพอใจมากในการที่ผู้รักษาเมืองโบเวได้จัดการต้อนรับให้เกียรติยศทุกอย่าง ราชทูตได้ไปดูโบสถและได้ไปดูโรงงารสำหรับทำของต่าง ๆ มองซิเออร์เดอ ริโอโตต์ได้พาราชทูตสยามไปดูกองทหารม้า เกรอนาเดียประจำพระองค์ ราชทูตสยามพอใจมาก


๔๐ คัดจากจดหมายมองซิเออร์สตอฟ ถึงมาควิศเดอเซเนเล เขียนที่ตำบลแซนต์โอเเมร์ ลงวันที่ ๒๕ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มองซิเออร์สตอฟรายงารถึงการเดิรทางของราชทูตสยามว่า เมื่อไปถึงแห่งใดก็มีแต่การรื่นเริงและการรับรองอย่างใหญ่โตงดงามทุก แห่ง ดูเหมือนต่างคนต่างประกวดประขันกันว่าใครจะจัดการต้อนรับ ดีกว่ากัน เปนเช่นนี้ทุกแห่งทุกตำบล และยิ่งที่ตำบลแซนต์โอแมร์แล้วยิ่งจัดการต้อนรับดีมาก ด้วยกองทหารก็งามหนักหนา และนายร้อยโททหารก็เอาใจใส่ที่จะหาการต่าง ๆ ให้เปนเครื่องเพลิดเพลินของราชทูตสยาม นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงอาหารอย่างพิสดาร ต่อจากการเลี้ยงอาหารก็มีการเต้นรำ ผู้หญิงที่ไปในการเต้นรำนั้นก็แต่งกายอย่างงดงามที่สุด มองซิเออร์สตอฟเกรงว่าการที่รับรองราชทูตสยามเช่นนี้ อาจจะทำให้ราชทูตสยามหัวเสียได้ทีเดียว แต่จนถึงเวลานี้ราชทูตสยามก็ได้วางตัวรับเกียรติยศต่าง ๆ เหล่านี้ได้อย่างดี มองซิเออร์สตอฟถามว่า ในเวลาขากลับมาควิศเดอเซเนเลจะต้องการให้พาราชทูตสยามเดิรทางผ่านตำบลชังตียีหรือไม่ เพราะราชทูตสยามมีความปราถนาอยากจะพบกับเจ้า (Prince)


คัดจากหนังสือพิมพ์กาเซตประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ.๒๒๒๙) น่า ๗๐๐ ราชทูตสยามได้กลับมาถึงกรุงปารีศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ.๒๒๒๙) แล้ว

๔๑ คัดจากจดหมายมองซิเออร์สตอฟ ถึง มาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองลีล ลงวันที่ ๔ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ราชทูตสยามได้เกียรติยศมากทุกแห่ง เพราะเมื่อไปถึงที่แห่งใดก็ไม่มีอะไรนอกจากมีละคอน มีดนตรีเครื่องดีดสีตีเป่า ดอกไม้เพลิง มีการเลี้ยงอาหารอย่างงดงามที่สุด และมีการเต้นรำทุก ๆ แห่งพวกราชทูตชอบดูพวกชาวเมืองแฟลนเดอร์มาก เมื่อมีการรับรองอย่างงดงามใหญ่โตเช่นนี้ กระทำให้พวกราชทูตสยามเกือบจะไม่เชื่อว่าจะมีการงดงามใหญ่โตได้ถึงเพียงนี้ จนเกือบจะนึกเสียว่าเปนการฝันเสียแล้ว ราชทูตสยามไปที่แห่งใด พวกฝรั่งเศสที่ได้พบปะกับราชทูตก็มีความพอใจทุกคน เมื่อพวกเรากล่าววาจารับรองและให้ศีลให้พร พวกราชทูตสยามก็กล่าววาจาตอบอย่างไพเราะ น่าฟังมาก และคำสั่งต่าง ๆ ซึ่งราชทูตสยามสั่งไว้ในตอนกลางคืนทุก ๆ คืนนั้น ผู้รับคำสั่งก็ยินดีที่จะรับคำสั่งจากท่านราชทูต เมื่อไปถึงเมืองใดเจ้าพนักงารได้พาราชทูตสยามไปดูและชมของทุก ๆ อย่าง จนที่สุดของเล็กน้อยก็พาไปให้ดูเหมือนกัน




๔๒ คัดจากจดหมายมองซิเออร์สตอฟ ถึง มาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองคำเบร ลงวันที่ ๑๓ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มีคน ๆ ๑ ชื่อ เลอแคล อ้างตัวว่าเปนคนของมาดำลามาเรชาลเดอลามอต ได้นำจดหมายมาจากนายโฮเตลของมาดำเดอลามอต มาถึงมองซิเออร์เดอวิล ขอร้องให้มองซิเออร์เดอวิลได้นำมอง ซิเออร์เลอแคลเข้าในงบของราชทูตสยาม เพื่อเปนหนทางสำหรับทำการติดต่อกันต่อไป คน ๆ นี้ได้ทำการติดต่อดีมาก และพยายามสืบถึงการทั้งปวงจนสิ่งเล็กน้อยก็สืบให้รู้ไว้ และสืบตลอดถึงการทหารและป้อมต่าง ๆ ด้วย คน ๆ นี้ได้เข้าอยู่ในงบของราชทูตสยามแล้ว มองซิเออร์สตอฟจึงถามมาควิศเดอเซเนเลว่า การที่ให้มองซิเออร์เลอแคลมาเข้างบเช่นนี้จะเปนประโยชน์อย่างไรบ้างหรือไม่


คัดจากบัญชีเงินประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) น่า ๔๒ วันที่ ๗ ธันวาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ ๒๒๒๙) จ่ายเงินค่าของ ต่าง ๆ ซึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะได้ส่งเปนเครื่องราชบรรณาการถวายพระเจ้ากรุงสยาม เงิน ๔๐,๐๐๐


๔๓ คัดจากบาญชีเงินประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) น่า ๔๒ เมื่อวันที่ ๑๗ เดือนธันวาคม ค.ศ.๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) จ่ายเงินให้ค่าโสหุ้ยสำหรับราชทูตสยามจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนเงิน ๒๐๖๖๕


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์เดอคลูโซ ลงวันที่ ๒๘ เดือนธันวาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) จดหมายของมองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๑๖ และที่ ๒๐ เดือนนี้ (ธันวาคม) มาควิศเดอเซเนเลได้รับไว้แล้ว และการที่มองซิเออร์เดคลูโซได้ทำความตกลงกับมองซิเออร์เดอโวดรีคูร์ และมองซิเออร์ดูเคนกีตัง ในเรื่องอาหารสำหรับเลี้ยงราชทูตและคนอื่น ๆ ที่จะเดิรสารเรือไปประเทศสยามนั้น ได้ทราบความทุกประการแล้ว และพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็ทรงเห็นชอบตามที่จัดการไปนั้นแล้ว เพราะฉนั้นอนุญาตให้มองซิเออร์เดคลูโซจ่ายเงินทดรองให้แก่นายเรือก็ได้ จะให้มากน้อยเท่าใดแล้วแต่มองซิเออร์เดคลูโซจะเห็นสมควร ในส่วนตัวมองซิเออร์โวดรีคูร์นั้น พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้พระราชทานเงินให้เดือนละ ๔๐๐ แฟรง สำหรับอาหารรับประทานในเรือประจำวันแล้ว


๔๔ ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐) คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์เฟโดเดอโบร ลงวันที่ ๑๖ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ด้วยพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมีพระราชดำริห์ว่า ในเวลาที่ราชทูตสยามเดิรทางกลับไปเมืองเบรสต์เพื่อไปลงเรือนั้น โปรดให้ราชทูตสยามเดิรทางไปทางเมืองนอมันดี จึงมีรับสั่งให้ข้าพเจ้าเขียนจดหมายมายังท่านว่ามีพระราชประสงค์ว่า ถ้าราชทูตสยามได้เดิรทางผ่านเมืองใดตำบลใด ก็ให้จัดการรับรองให้สมเกียรติยศของราชทูตสยามทุกประการ จึงโปรดออกคำสั่งให้บรรดาพนักงารทั้งปวงทราบในเรื่องนี้



คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์เดอกูร์เกต์ ลงวัน, เดียว และเรื่องเดียวกันกับจดหมายถึงมองซิเออร์เฟโดเดอโบร



๔๕ คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๑๖ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเลตอบรับจดหมายของมองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๓ และที่ ๖ เดือนนี้ (มกราคม) มาควิศเดอเซเนเล มีความยินดีที่ได้ทราบว่า เรือเลอกายยาค์ เรือลัวโซ เรือลาฟลูต เรือลาลัว ได้ไปทอดสมอที่ท่าเรือเมื่อวันที่ ๑๒ เดือนนี้ (มกราคม) แล้ว มา ควิศเดอเซเนเลจึงกำชับมองซิเออร์เดคลูโซให้คอยเตรียมเรือเหล่านี้ ไว้ให้พร้อม เมื่อราชทูตสยามมาถึงเมื่อใดก็ให้ได้ลงเรือได้ทันทีเพื่อมิให้เสียเวลาในการที่ราชทูตสยามจะได้ออกเรือ และในเรื่องนี้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมีกระแสรับสั่งว่า ถ้าราชทูตสยามได้มาถึงเมื่อใด ก็ให้จัดรับรองให้สมเกียรติยศของราชทูตทุกประการ และให้ยิงปืนใหญ่รับด้วย


คัดจากบาญชีเงินประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐) น่า ๔๑-๔๒ ลงวันที่ ๑๖ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๒๙) จ่ายเงินขาดค่าใช้จ่ายสำหรับราชทูตสยาม จนถึงวันที่ ๑ เดือนนี้ ๙๑๗๘.๑๓.๖ ค่าเช่ารถและเช่าม้าสำหรับพาราชทูตสยามไปยัง เมืองเบรสต์ ๕๑๙๐.


๔๖ คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์สตอฟ ลงวันที่ ๑๗ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเล แจ้งมาให้มองซิเออร์ตอฟทราบ ว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมีพระราชประสงค์ให้มองซิเออร์ตอฟคิดอ่านจัดการอย่าง ใดอย่าง ๑ ให้พาราชทูตสยามเดิรทางผ่านเมืองนานต์และให้ไปถึงเมืองเบรสต์ใน ๑๗ วัน และให้มองซิเออร์ตอฟอยู่ที่เมืองเบรสต์ จนกว่าราชทูตสยามจะได้ลงเรือเสร็จแล้ว


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึง มองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๑๘ เดือนมกราคม ค.ศ.๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเลตอบรับจดหมายของมองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๑๓ เดือนนี้ (มกราคม ) และมีความยินดีที่ได้ทราบว่าเรือ ลัวโซได้มาถึงท่าเรือแล้วและเรือลำอื่น ๆ ที่จะไปยังประเทศสยามนั้น ก็ได้มาถึงในเร็ว ๆ นี้แล้ว มาควิศเดอเซเนเลแจ้งให้มองซิเออร์เดคลูโซทราบต่อไปว่า ราชทูตสยามได้ออกจากกรุงปารีศแล้ว คงจะได้ไปถึงเมืองเบรสต์ในเร็ว ๆ นี้ เพราะฉนั้นมาควิศเดอเซเนเลจึงกำชับว่าเปนการสำคัญที่จะต้องเตรียมเรือไว้ให้พร้อม เมื่อราชทูตสยามไปถึงเมื่อใด ก็ออกเรือได้ทีเดียว


๔๗ คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึงมองซิเออร์เดอกูรก์ แลมองซิเออร์เฟโดเดอโบร ลงวันที่ ๒๐ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเลบอกให้ท่านทั้งสองนี้ทราบว่า ในการที่มีพระราชดำริห์ไว้แต่เดิมว่าจะให้ราชทูตสยามเดิรทางผ่านตำบลที่ท่านทั้งสองนี้ปกครองเพื่อไปยังเมืองเบรสต์นั้น ได้ทรงเปลี่ยนพระราชดำริห์แล้ว ด้วยทรงเห็นว่าควรจะให้ราชทูตสยามเดิรทางเมืองนานต์เพื่อไปเมืองเบรสต์ต่อไป



คัดจากจดหมายมองซิเออร์สตอฟ ถึง มาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองเบรสต์ ลงวันที่ ๕ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ราชทูตสยามได้มาถึงเมืองเบรสต์เมื่อวันที่ ๔ เดือนนี้ (กุมภาพันธ์) โดยมีความสบายดีด้วยกันทุกคน เวลานี้ท่านราชทูตสยามคอยให้คนที่จะไปด้วยกันได้มาถึง ก็จะได้ลงเรือทีเดียว



๔๘ คัดจากจดหมายมองซิเออร์เดคลูโซ ถึง มาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองเบรสต์ ลงวันที่ ๗ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ท่านราชทูตสยามได้มาถึงเมืองนี้ เมื่อวันอังคารเวลากลางคืนดึกแล้ว ในคืนวันนั้นเปนอันหมดเวลาที่จะจัดการรับรองให้สมเกียรติยศตามคำสั่งของท่านได้ รุ่งขึ้นท่านราชทูตสยามได้มีความกรุณามารับประทานอาหารที่บ้านข้าพเจ้า กองทหารประจำเมืองเบรสต์กับกองทหารเรือได้มาเข้าแถว ๒ ฟากทางตั้งแต่ที่พักของท่านราชทูตตลอดจนถึงบ้านข้าพเจ้า ปืนใหญ่ของนายพลโท และปืนใหญ่ของท่าเรือได้ยิงปืนรับท่านราชทูต แล้วภายหลังเปนปืนใหญ่ที่ในวังได้ยิงรับเหมือนกัน มองซิเออร์สตอฟ และนายโฮเตลที่มากับท่านราชทูตสยามนั้น เห็นว่าไม่เปนการสมควรที่จะให้ท่านราชทูตพักยังบ้านข้าพเจ้า เพราะคนที่มากับท่านราชทูตมีจำนวนมากนัก พอท่านราชทูตได้มาถึง ข้าพเจ้าก็ได้ไปเชิญให้มาพักยังบ้านข้าพเจ้า รุ่งขึ้นข้าพเจ้าก็ได้ไปเชิญอีก แต่ท่านราชทูตไม่ยอมมา




๔๙ คัดจากจดหมายเคาน์เดอเบธูน ถึงมาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองเบรสต์ ลงวันที่ ๑๐ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ที่เมืองเบรสต์ได้ทำพิธีสวดมนต์บทเตเดอำ โดยทำพิธีอย่างสง่าผ่าเผยและงดงามที่สุดที่จะทำได้ เมื่อวานนี้ท่านราชทูตสยามต้องการดูยิงปืนใหญ่และดูการยิงปืนเล็ก ท่านราชทูตสยามจึงได้ไปที่ท่าเรือ ซึ่งกองทัพเรืออันจะไปยังประเทศสยามได้จอดอยู่ กองทัพเรือจึงได้ยิงปืนใหญ่ทุกกระบอก ตามที่ที่เรือจอดอยู่นั้นได้จุดคบเพลิงทั่วไปทุกแห่ง


คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึงมองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๒๘ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๒๙) จดหมายฉบับนี้กล่าวในเรื่องที่มองซิเออร์เดคลูโซ มีจดหมายมาเมื่อวันที่ ๒๑ เดือนนี้ (กุมภาพันธ์) ในเรื่องที่จะไปยังประเทศสยามนั้น ได้ออกไปแล้ว



๕๐ คัดจากจดหมายมาควิศเดอเซเนเล ถึงมองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๒๒ เดือนมีนาคม ค.ศ. ๑๖๘๗ ( พ.ศ. ๒๒๒๙) มาควิศเดอเซเนเล ตอบรับจดหมายของมองซิเออร์เดคลูโซ ลงวันที่ ๑๔ เดือนนี้ (มีนาคม) กับบาญชีจ่ายเงินให้แก่คนเรือที่ประจำอยู่ในเรือซึ่งได้ออกไปยังประเทศสยามแล้ว ทั้งบาญชีรายจ่ายเงินให้แก่นายเรือ สำหรับจ่ายค่าอาหารเลี้ยงราชทูตสยาม และคนเดิรสารด้วย


คัดจากบาญชีเงินปี ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐) น่า ๒๔-๔๓ ลงวันที่ ๑๒ เดือนเมษายน ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐) จ่ายเงินขาดให้ค่าโสหุ้ยใช้จ่ายสำหรับราชทูตสยาม จนถึงวันที่ ๑๒ เดือนมีนาคม เงิน ๒๔๒๖๘ : ๑๓ : ๘.


คัดจากคำสั่งสำหรับให้มองซิเออร์เดอลูแบ พนักงารคลังกองทหารเรือจ่ายเงิน ลงวันที่ ๑๒ เดือนเมษายน ค.ศ.๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐) จ่ายเงินขาดให้แก่มองซิเออร์เรอโนเปนค่าโสหุ้ยใช้จ่ายสำหรับราชทูตสยาม ตั้งแต่วันที่ ๙ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ.๒๒๒๙) ถึงวันที่ ๑๒ เดือนมีนาคม เงิน ๒๔๒๖๘ ๑๓.๘


๕๑ คัดจากคำสั่ง ลงวันที่ ๑๓ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐) ให้มองซิเออร์เดอลูแบบจ่ายเงิน ๔๐๐ ให้แก่มองซิเออร์เดอวีลเปนรางวัลในการที่มองซิเออร์เดอวีลได้เปนธุระให้แก่ราชทูตสยาม คิดเปนเงินเดือนละ ๒๐๐


คัดจากจดหมายมองซิเออร์แซงเตร ถึงมาควิศเดอเซเนเล เขียนที่เมืองเบรสต์ ลงวันที่ ๑๔ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐) มองซิเออร์แซงเตรบอกมาว่า ให้จัดการรับรองราชทูตสยามสมเกียรติยศทุกอย่าง


ค.ศ. ๑๖๘๘ (พ.ศ. ๒๒๓๑) รวมค่าใช้จ่ายในเมืองเบรสต์ เปนเงินค่าเช่าบ้านและค่าอาหารสำหรับราชทูตสยามและข้าราชการที่มากับท่านราชทูต ในระหว่างเวลาที่ราชทูตสยามพักอยู่เมืองเบรสต์ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ เดือนกรกฎาคม ตลอดถึงวันที่ ๒ เดือนกันยายน ปีนี้ คือปี ค.ศ. ๑๖๘๘ (พ.ศ. ๒๒๓๑) เปนเงินรวม ๑๐๑๔.๑๐ (เซ็น) เดคลูโซ วันที่ ๓ เดือนกันยายน ค.ศ. ๑๖๘๘ (พศ. ๒๒๓๑)


๕๒ คัดจากบาญชีเงินประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๘ (พ.ศ. ๒๒๓๑ ) น่า ๕๖ ลงวันที่ ๑๐ เดือนกันยายน ค.ศ. ๑๖๘๘ (พ.ศ. ๒๒๓๑ ) ค่าอาหารเลี้ยงราชทูตของพระเจ้ากรุงสยาม ข้าราชการสยามและชาวสยามซึ่งได้มาพร้อมกับท่านราชทูตเปนเงิน ๕๔๐๘ : ๖ : ๘.


คัดจากจดหมายบาดหลวงตาชา ถึงมาควิศเดอเซเนเล เขียนที่กรุงปารีศ ลงวันที่ ๑๖ เดือนกันยายน พ.ศ. ๑๖๘๘ (พ.ศ. ๒๒๓๑ ) ด้วยข้าราชการไทย ๓ คนได้มาถึงกรุงปารีศ เมื่อวันที่ ๑๔ (กันยายน) แล้ว นักพรตชาวตังเกี๋ย ๒ คน กับคนไทยหนุ่ม ๕ คนจะได้มาถึงราววันที่ ๑๗ ไทยหนุ่ม ๕ คนนั้น เมื่อมาถึงเมื่อใดบาดหลวงตาชาจะได้จัดส่งไปยังโรงเรียน แต่ในการเลี้ยงดูและค่าโสหุ้ยเดิรทางของข้าราชการไทยที่มาถึงกรุงปารีศแล้วนั้น บาดหลวงตาชายังไม่เห็นมีใครสั่งเสียว่าอย่างไรเลย ในข้อที่มาควิศเดอเซเนเลถามว่า จะควรรับรองข้าราชการไทยอย่างไรนั้น บาดหลวงตาชาเห็นว่าควร จะรับรองอย่างชาวต่างประเทศที่เปนมิตร์กับประเทศฝรั่งเศส ไม่ควรจะรับรองอย่างคนสามัญ ข้าราชการ ๓ นายมีบ่าวคนใช้มาด้วย ๕ คน บาดหลวงดาชาด์เห็นว่าควรจะจัดหาโต๊ะไว้ในห้องของข้าราชการไทยพอจะนั่งรับประทานอาหารได้สัก ๘ หรือ ๑๐ คน เพื่อข้าราชการไทยจะได้มีโอกาศเชื้อเชิญผู้ที่มาเยี่ยมเยือนให้รับประทานอาหารได้


๕๓ อนึ่งบาดหลวงตาชาเห็นว่าควรจะให้มีเจ้าพนักงารกองทหารเรือที่เปนคนหนุ่ม ๆ หรือคนอื่น ๆ ซึ่งมีความประพฤติดีประจำอยู่กับข้าราชการไทยสักคน ๑ สำหรับที่จะได้พาข้าราชการไปเที่ยวในกรุงปารีศ และในที่ใกล้เคียง และควรจะต้องจัดหารถไว้สำหรับประจำอยู่กับข้าราชการไทยด้วยสัก ๑ หลัง ได้มีคนเขียนจดหมายบอกมาจากตำบลฮาฟร์ว่า มองซิเออร์เดอโลวินยีจะคิดเงินแก่ข้าราชการไทยเปนค่าโสหุ้ยสำหรับจะไปกรุง ปารีศ และได้มีบุคคลคน ๑ ได้มาคิดเงินที่เมืองรูอัง บาดหลวงตาชา จึงจำเปนต้องออกเงินค่าเช่ารถและค่าโสหุ้ยอย่างอื่นตลอดจนถึงกรุง ปารีศ บาดหลวงตาชาจึงหวังใจว่า ฝรั่งเศสคงจะไม่รับรองข้าราชการไทยที่มาคราวนี้ เหมือนกับเมื่อครั้งรับรองข้าราชการไทย ๒ คนที่ มาคราวก่อน เพราะข้าราชการที่มาคราวก่อนนั้น เปนแต่เพียงข้าราชการซึ่งพระยาพระคลังใช้ให้มาเท่านั้น ทั้งยศและตำแหน่งก็ต่ำกว่าข้าราชการไทยที่มาคราวนี้ บาดหลวงตาชาก็รู้สึกอยู่แล้วว่าชาวฝรั่งเศสมีความนับถือและยกย่องผู้ที่มาในพระนามของพระเจ้า กรุงสยามทุกคน คัดจากรายงารการใช้จ่าย ซึ่งมองซิเออร์เดอลานยีได้จ่ายเงินไปสำหรับข้าราชการไทย ๓ คนที่มาแทนพระเจ้ากรุงสยาม กับล่าม ๑ คน และคนใช้ ๔ คน ซึ่งมากับข้าราชการไทย คิดเปนเงินใช้จ่าย วันละ ๒๒ แฟรง เปนเงินค่าอาหารการรับประทาน ค่าเช่าที่พัก ค่าซักฟอกรีดเสื้อผ้า ค่าฟืน ค่าเทียนไข และค่าอื่น ๆ อันจำเปนจะ


๕๔

ต้องใช้ รวม ๖๑ วันจนถึงวันที่ ๕ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๘ (พ.ศ. ๒๒๓๑) ซึ่งเปนวันที่ข้าราชการไทยได้ยกไปกรุงโรม ค่าเช่ารถรวม ๓ เดือน ค่าใช้จ่ายสำหรับชาวตังเกี๋ย ๓ คนในระหว่างเวลา ๒ วัน และค่าโสหุ้ยจ่ายสำหรับกองทหารที่ได้พาข้าราชการไทยไปยังกรุงปารีศ รวมทั้งสิ้นเปนเงิน ๑๘๗๗ แฟรง บาญชีน่า ๘๑๐ ปี ค.ศ. ๑๖๘๘ (พ.ศ. ๒๒๓๑)


ปี ค.ศ. ๑๖๘๙ (พ.ศ. ๒๒๓๒ ) คัดจากบาญชีเงินประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๙ (พ.ศ. ๒๒๓๒) น่า ๔๗ วันที่ ๘ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๙ (พ.ศ.๒๒๓๑) ค่าใช้จ่ายสำหรับข้าราชการที่มาแทนพระเจ้ากรุงสยามเงิน ๒๘๙๑ : ๑๐


คัดจากบาญชีเงินประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๙ (พ.ศ.๒๒๓๒ ) น่า ๔๙ วันที่ ๑๖ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๙ (พ.ศ. ๒๒๓๒) ค่าอาหารการเลี้ยงข้าราชการของพระเจ้ากรุงสยาม และค่าโสหุ้ยอย่างอื่น ๆ เงิน ๑๐๑๗๖:๑๖


คัดจากบาญชีเงินประจำปี ค.ศ. ๑๖๘๙ (พ.ศ. ๒๒๓๒) น่า ๕๑ วันที่ ๑๖ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๙ (พ.ศ.๒๒๓๒) จ่ายเงินคืนให้แก่บาดหลวงแวยู บาดหลวงคณะเยซวิต เปนเงินค่าโสหุ้ยการใช้จ่ายสำหรับข้าราชการไทย เปนเงิน ๙๙๐๐.

๕๕ ปี ค.ศ. ๑๖๙๐ (พ.ศ. ๒๒๓๓) คัดจากบาญชีเงินประจำปี ค.ศ. ๑๖๙๐ (พ.ศ. ๒๒๓๓) น่า ๔๕-๔๖ วันที่ ๑๐ เดือนมีนาคม ค.ศ. ๑๖๙๐ (พ.ศ. ๒๒๓๓) ค่าอาหารการเลี้ยงข้าราชการของพระเจ้ากรุงสยาม เงิน ๒๙๗๐.









๕๖ ถ้อยคำที่ราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามได้กล่าวในเวลากราบทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และทูลเจ้านายทั้งเจ้าผู้หญิงเจ้าผู้ชายในพระราชวงศฝรั่งเศส เมื่อราชทูตสยามได้เฝ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสในครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑ เดือนกันยายน ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙)


ถ้อยคำที่กราบทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ขอพระราชทานกราบทูลสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน ผู้เปนใหญ่ และซึ่งทรงมีอำนาจและเดชานุภาพ จนราชศัตรูของพระองค์ได้พ่ายแพ้ไปหมดสิ้นแล้ว ด้วยพวกข้าพเจ้าขอพระมหากรุณาต่อพระองค์ได้ทรงโปรดฟังถ้อยคำที่พวกข้าพเจ้าจะได้กราบทูลทั้งนี้ ในการที่พวกข้าพเจ้าได้มาเฝ้าพระองค์ในวันนี้ กระทำให้พวกข้าพเจ้ามีความปีติยินดียิ่งนัก เพราะเหตุที่พระองค์เจ้าได้ประสูติแล้ว อันเปนเจ้าที่เทวดาชั้นฟ้าได้ประทานลงมาให้สำหรับประเทศฝรั่งเศส สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามผู้ทรงพระเดชานุภาพอันใหญ่ยิ่ง นายของพวกข้าพเจ้า ซึ่งทรงพระอิศิริยยศจนบรรดาเจ้าแผ่นดินและเจ้านายฝ่ายทิศตวันออกทั้งปวงกลัวเกรงพระเดชานุภาพ และซึ่งทรงรักใคร่พระองค์อย่างยิ่ง จนพวกข้าพเจ้าไม่มีถ้อยคำที่จะกราบทูลให้พระองค์ทรงทราบได้นั้น ได้ทรงพระกรุณาโปรดคัดเลือกให้พวกข้าพเจ้าได้เปนราชทูตต่างพระองค์ มาเฝ้าและเพื่อนำของเครื่องราช


๕๗

บรรณาการมาถวายให้เปนพยานแห่งความนับถือ ที่สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามได้มีต่อพระองค์ อนึ่งสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามได้มีกระแสรับสั่งให้พวกข้าพเจ้ามากราบทูลให้ทรงทราบ ว่าสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามทรงทราบได้อย่างดี ว่าพระองค์ทรงพระปรีชาญาณและทรงมีสติปัญญาอันลึกซึ้ง ซึ่งมนุษย์ทั้งปวงไม่อาจจะเล็งเห็นได้ พระราชอำนาจก็มีอยู่เต็มที่ จึงได้ทรงปกครองขอบขัณฑสีมาด้วยความยุติธรรม อันน่าชมเชยยิ่งนัก ฝ่ายในพระราชสำนักเล่า ก็มีขุนนางข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ซึ่งมีสติปัญญาไหวพริบ จึงอาจที่จะกระทำการทั้งปวงซึ่งพระองค์จะได้มีรับสั่งให้ทำ เพื่อปกครองอาณาประชาราษฎรให้มีความเจริญได้ทุกอย่าง ส่วนในพระราชอาณาจักร์อันกว้างขวางนั้น ก็มีบ้านเมืองใหญ่โตอันมีป้อมคูประตูหอรบอย่างแขงแรง ทั้งลูกกระสุนดินดำเครื่องศัสตวุธก็มีพร้อมบริบูรณ์ อันเปนของจำเปนสำหรับใช้ในเวลามีสงครามทุกอย่าง การที่พระองค์ทรงมีไชยชนะในการทัพศึกนั้น ก็ทรงมีไชยทั้งทางทะเลแลทางบก ผู้ใดที่องอาจมาขัดต่อพระราชดำริห์ พระองค์ก็ทรงปราบเสีย จนศัตรูเหล่านั้นต้องมาอ่อนน้อมต่อใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาททุกคน จนถึงที่สุด วันนี้พระองค์เปนผู้ทรงชี้ขาดในความดีความชอบ ไม่เฉพาะแต่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินของพระองค์ แต่ทรงชี้ขาดตลอดถึงบ้านเมืองอันอยู่ใกล้เคียง และพระองค์ทรงปกครองประเทศฝรั่งเศสด้วยพระเดชานุภาพอันใหญ่หลวง อันพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศสองค์ก่อน ๆ จะเปรียบปาน


๕๘ ไม่ได้เลยเปนอันขาด จนบรรดาพระเจ้าแผ่นดินและเจ้านายในโลก นี้ มีความนิยมยินดีในพระเดชานุภาพ จึงต่างองค์ต่างคิดจะมาเปนพระราชไมตรีกับพระองค์ทั้งสิ้น โดยเหตุที่พระองค์ทรงพระเดชานุภาพ จนข่าวได้เล่าลือไปตลอดทิศตวันออกเช่นนี้ สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวก ข้าพเจ้าได้ทรงทราบก็จับพระทัยยิ่งนัก และในระหว่างที่เล่าลือถึงพระเดชานุภาพของพระองค์ สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงทราบว่าพระองค์มีพระราชประสงค์จะเปนพระราชไมตรีด้วยนั้น จึงได้ทรงพระโสมนัสยินดีอันจะหาคำใดมากราบทูลไม่ได้แล้ว ทั้งพระราชวงศานุวงศข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้น้อยผู้ใหญ่ก็พลอยมีความยินดีด้วยกันทุกคน และต่างคนต่างยกย่องชมเชยสรรเสริญชมพระบารมีของพระองค์ด้วยกันทั้งสิ้น สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้า หาทรงทราบไม่ว่าในบรรดาของทั้งปวงอันมีอยู่ในพระราชอาณาจักร์สยาม จะมีสิ่งใดที่พระองค์จะพอพระทัยบ้าง จึงได้มอบของบางอย่างให้พวกข้าพเจ้าเชิญมาเปนเครื่องราชบรรณาการถวายต่อพระองค์ เพราะ ฉนั้นขอพระองค์ได้โปรดมีกระแสรับสั่งให้เจ้าพนักงารได้ไปรับเครื่อง ราชบรรณาการเหล่านี้ไว้ด้วย ในส่วนตัวพวกข้าพเจ้าและข้าราชการที่ได้มาราชการกับข้าพเจ้านั้น ต้องกราบทูลสารภาพให้ทรงทราบ ว่าในชั้นต้นก็รู้สึกเสียใจ


๕๙ อาลัยในการที่จะต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนเดิรทางอันไกลเช่นนี้อยู่บ้าง เพราะพวกข้าพเจ้าไม่เคยเลยที่จะได้เดิรทางด้วยพาหนะเรือชนิดนี้ แต่มาบัดนี้ เมื่อได้รับโอกาศที่ได้มาเฝ้าพระองค์แล้ว และเมื่อได้เห็นพระบารมีด้วยตาของพวกข้าพเจ้าเอง ว่าข่าวลือถึงพระเดชานุภาพเปนสิ่งที่ยังต่ำกว่าความที่เปนจริงแล้ว ความเสียใจอาลัยที่มีแต่ชั้นเดิมนั้นก็เปนอันเบาบางลงไปทุกที และพวกข้าพเจ้ารู้สึกว่ามีความสุขสบายและสุขใจ เท่ากับพวกข้าพเจ้ายังคงอยู่ใกล้พระองค์นายของพวกข้าพเจ้าอยู่เช่นนั้น ในที่สุดนี้พวกข้าพเจ้าไม่มีคำใดที่จะกราบทูลต่อไป นอกจากจะกราบทูลขอรับพระมหากรุณาจากพระองค์ตลอดเวลาที่พวกข้าพเจ้าจะได้พักอยู่ในพระราชอาณาเขตของพระองค์เท่านั้น


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อมกุฎราชกุมาร ขอกราบทูลเจ้าอันใหญ่ยิ่ง ซึ่งพระรัศมีในเวลาที่ประสูติได้ส่องไปทั่วโลก และซึ่งพระอัธยาศัยอันกล้าหาญได้ทำให้ตาของคนทั่วโลกมัวไปหมด ด้วยสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้า ได้รับสั่งใช้ให้พวกข้าพเจ้ามาเฝ้ากราบทูลถวายพระศีลพระพร ขอให้สมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสพระราชบิดาของพระองค์ได้ทรงพระเจริญทุกประการ ได้มีรับสั่งใช้ให้พวกข้าพเจ้ามาถวายบังคมต่อพระองค์เหมือนกัน และ

๖๐

ได้ทรงมอบของต่าง ๆ มาถวายต่อพระองค์ ขอพระองค์ได้ทรงรับของเหล่านี้ไว้ด้วยความเสน่หารักใคร่ดุจเดียวกับที่สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามได้พระราชทานมาด้วยมีน้ำพระทัยรักใคร่ในพระองค์เช่นเดียวกัน อนึ่งได้มีรับสั่งให้มากราบทูลต่อพระองค์ว่า ในบรรดาของต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ในฝ่ายทิศตวันออก ถ้ามีของสิ่ง ๑ สิ่งใดซึ่งเปนที่พอใจของพระองค์แลพระองค์มีพระประสงค์แล้วก็ขอให้รับสั่งให้พวกข้าพเจ้าทราบด้วย เ พื่อเปนโอกาศที่สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามจะได้จัดส่งมาพระราชทานเพื่อให้ถูกพระทัยของพระองค์ ในการที่พวกข้าพเจ้าได้มาตกลงทำพระราชไมตรีในพระนามของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยาม และสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสผู้มีพระเดชา นุภาพมากนั้น เปนการที่สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามมีพระราชประสงค์ยิ่งนักที่จะให้พระราชไมตรีนี้ได้คงยั่งยืนชั่วกาลนาน จึงทรงหวังพระราชหฤทัยว่า โดยเหตุที่พระองค์ทรงพระสติปัญญาอันเฉียบแหลมทั้งพระทัยก็ดี พระองค์คงจะทรงพระดำริห์หาทางที่จะให้พระราชไมตรีในระหว่างประเทศทั้งสองนี้ได้สนิทแน่นหนามั่นคงอยู่ชั่วกาลนานเปนแน่ พวกข้าพเจ้าอาจจะกราบทูลรับรองล่วงหน้าได้ว่าในการที่พระเปนเจ้าได้โปรดให้พระโอรสของพระองค์ได้ประสูติ ประจวบกับเวลาที่พวกข้าพเจ้าได้มาจากหนทางห่างไกล เพื่อมาถวายบังคมต่อพระองค์นั้น คงจะเปนการที่สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวก


๖๑ ข้าพเจ้าจะทรงปราโมชยินดียิ่งนัก และการที่ประจวบเปนฤกษดีเช่นนี้ พวกข้าพเจ้าอาจจะทำนายได้ ว่าต่อไปในภายภาคหน้า พระโอรสองค์นี้คงจะทำให้พระนามของพระองค์กับนามของประเทศฝรั่งเศส ได้แพร่หลายมีเกียรติยศจนตลอดสุดโลกเปนแน่ พวกข้าพเจ้าเชื่อใจว่าพระองค์คงจะทรงพระเมตตาแก่ตัวข้าพเจ้าทั้งคงจะแผ่พระบารมีเพื่อปกครองพวกข้าพเจ้าด้วยเปนแน่


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กล่าวกราบทูลมกุฎราชกุมารี ขอประทานกราบทูลเจ้าหญิง ซึ่งพระบารมีปกแผ่เปนรัศมีทั่วไป ด้วยสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้า ผู้มีพระราชประสงค์ที่จะเปนพระราชไมตรีกับสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสยิ่งนัก ได้ทรงจัดให้พวกข้าพเจ้ามายังประเทศฝรั่งเศส เพื่อมาถวายบังคมและเพื่อถวายพระศีลพระพรขอให้สมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรง พระเจริญทุกประการ ในการที่ข้าพเจ้าจะได้มายังประเทศฝรั่งเศสนี้ ความได้ทรงทราบไปถึงสมเด็จพระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยาม ก็ทรงพระโสมนัสยินดียิ่งนัก จึงได้ทรงสืบสวนถึงการที่เกี่ยวด้วยเจ้านายใน พระราชวงศฝรั่งเศส ครั้นได้ทรงทราบว่าพระองค์ได้ดำรงอยู่เปน


๖๒ ผาสุกกับพระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ก็ทรงปีติยินดียิ่งนัก สมเด็จพระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามมีพระประสงค์จะทรงทราบยิ่งนักว่า พระองค์จะโปรดของทางฝ่ายทิศตวันออกเปนของสิ่งไรบ้าง จึงได้โปรดมีรับสั่งให้พวกข้าพเจ้านำของแปลก ๆ บางอย่างมาถวายต่อพระองค์ เหมือนกับส่งตัวอย่างมาถวายให้ทอดพระเนตร์ เพื่อพระองค์จะได้ทรงเห็นว่าในประเทศสยามมีของอย่างไรบ้าง ในของต่าง ๆ ที่ข้าพเจ้านำมาถวายนี้ ถ้ามีสิ่งใดที่พอพระทัยของพระองค์แล้ว ก็ขอได้โปรดรับสั่งให้พวกข้าพเจ้าทราบด้วย และถ้าจะมีพระประสงค์ของอย่างใดแล้ว ก็ขอได้โปรดมีรับสั่งให้เจ้าพนักงารของพระองค์ได้ทำแบบตัวอย่างประทานมายังข้าพเจ้าด้วย สมเด็จพระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยาม ได้มีรับสั่งให้พวกข้าพเจ้ามากราบทูล ว่าการที่พระองค์มีพระโอรสและพระธิดาอันเปนที่เชิดชูของประเทศฝรั่งเศสนั้น เปนสิ่งที่สมเด็จพระราชธิดาทรงยินดีนัก และทรงขอร้องต่อพระองค์ ขอให้พระองค์ได้ทรงรับสั่งให้พระโอรสได้มิพระทัยดำริห์แต่จะให้พระราชไมตรีในระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินทั้งสองได้สนิธสนมมั่นคงอยู่เปนนิตย์ เพื่อพระราชไมตรีที่พวกข้าพเจ้าได้มาทำความตกลงในครั้งนี้ จะได้อยู่ยั่งยืนชั่วกาลนาน เท่ากับดวงพระอาทิตย์เช่นนั้น



๖๓ ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้ทูลต่อ ดุกเดอบูรกอยน์ เมื่อพระผู้เปนเจ้าบนสวรรค์ได้โปรดให้พระองค์ประสูติมาสำหรับเปนเครื่องเชิดชูเกียรติยศของประเทศฝรั่งเศสนั้น ในประเทศสยามไม่มีใครเลยที่จะไม่ยินดีจนคนเดียว เพราะชาวประเทศสยามเห็นว่าพระองค์เปนผู้ซึ่งพระเปนเจ้าได้กะไว้ สำหรับทำให้พระราชไมตรีในระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินทั้งสองได้ติดต่อกันชั่วกาลนาน สมเด็จพระราชินีของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยาม จึงได้โปรดให้พวกข้าพเจ้ามาถวายพรขอให้พระองค์ได้ทรงพระเจริญตลอดพระชนมายุ และได้โปรดประทานของมาเพื่อเปนเครื่องเพลิดเพลินพระทัย จนกว่าจะได้ทราบว่าพระองค์จะต้องพระประสงค์ของอย่างใดในฝ่ายทิศตวัน ออกบ้าง


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อท่าน ดุกดังยู ด้วยการที่พระองค์ได้ประสูติมานั้น ก็โดยพระกรุณาของพระเปนเจ้าบนสวรรค์ ซึ่งมีความประสงค์จะกรุณาต่อประเทศฝรั่งเศสเพื่อพระราชวงศจะได้ไม่ขาดเชื้อสายเลย การที่ได้ประสูติมานั้นได้กระทำให้ประเทศสยามทั้งประเทศมีความปีติยินดียิ่งนัก และสมเด็จพระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามก็ได้มีรับสั่งให้พวกข้าพเจ้า มาถวายพร ขอให้พระองค์ได้มีความสุขความเจริญทุกประการ


๖๔ และได้โปรดประทานของแปลก ๆ มาบางอย่าง เพื่อเปนเครื่องเพลิด เพลินในเวลาที่พระองค์ยังทรงพระเยาว์อยู่ จนกว่าพระองค์จะได้ทรงเจริญพระชันษา และจะได้มีพระประสงค์ของอย่างอื่น อันเปนของที่ดีและมีราคากว่านี้ต่อไป


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อท่าน ดุกดูเบรี ด้วยพวกข้าพเจ้าเชื่อว่า ถ้าสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้าได้ทรงทราบ ว่าพวกข้าพเจ้าได้มากราบทูลถวายพร ขอให้พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุ ก็คงจะเปนการพอพระทัยพวกข้าพเจ้าไม่สงสัยเลยว่าในภายภาคหน้า พระองค์คงจะเปนเจ้าที่มีพระนามโด่งดัง เพราะเหตุว่าพระองค์ได้ประสูติมาก็เฉพาะสำหรับเสด็จออกให้ราชทูตอันมาแต่ทางสุดโลกได้เข้าเฝ้า และพวกข้าพเจ้ามีความปลื้มใจที่พระองค์จะได้ทรงรู้จักสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าโดยเฉพาะ เพราะพระองค์คงจะได้ทรงเห็นพระนามของนายข้าพเจ้าปรากฎอยู่ในพงศาวดารของพระองค์ และคงจะทรงทราบต่อไปว่าการที่โปรดให้พวกข้าพเจ้าได้มาเฝ้าในวันนี้ เปนสิ่งสำคัญเปนครั้งแรกในพระชันษา



๖๕ ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูล ต่อพระเชษฐาของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ด้วยสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้า ได้มีรับสั่งว่าเมื่อพวกข้าพเจ้าได้ถวายบังคมต่อสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ผู้เปนสมเด็จพระอนุชาของพระองค์แล้ว ก็ให้พวกข้าพเจ้ามาถวายบังคมต่อพระองค์ด้วย พระนามอันโด่งดังของพระองค์ได้กระทำให้สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงทราบในอภินิหารของพระองค์ และได้ทรงทราบว่าพระองค์ได้มีไชยชนะต่อศัตรูของประเทศฝรั่งเศสอันเปนเรื่องเลื่องลือ ยิ่งนัก เหตุที่ศัตรูเหล่านี้เปนศัตรูของพระองค์ ก็เพราะศัตรูเหล่านี้เปนศัตรูของสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสพระอนุชาของพระองค์นั้น จึงกระทำให้พวกข้าพเจ้าเชื่อว่า พระสหายของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็คงจะเปนพระสหายของพระองค์เหมือนกัน และในบัดนี้สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้าก็อยู่ในจำนวนเปนพระสหายของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสแล้ว เพราะฉนั้นในพระนามของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยาม พวกข้าพเจ้าจึงมากราบทูลวิงวอน ขอพระองค์ได้โปรดช่วยให้พระราชไมตรีนี้ได้สนิธถาวรต่อไป ในส่วนตัวพวกข้าพเจ้าโดยเฉพาะนั้น ต้องขอพระกรุณาและพระบารีของพระองค์ได้เปนที่พึ่งต่อพวกข้าพเจ้าด้วย


๖๖ ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อ มาดำ ด้วยการที่สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้ามีพระราชประสงค์ที่จะเปนพระราชไมตรีกับสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนั้น เปนการกระทำให้พระองค์ทรงโปรดปรานรักใคร่เจ้านายในพระราชวงศ ฝรั่งเศสทุก ๆ องค์ และยิ่งเปนเจ้าหญิงซึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสโปรดปรานและเปนเชื้อพระวงศสนิธกับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสแล้ว สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้าก็กลับโปรดปรานรักใคร่มาก ขึ้นอีก เพราะฉนั้นจึงได้โปรดรับสั่งใช้ให้พวกข้าพเจ้ามายังประเทศ ฝรั่งเศสเพื่อกราบทูลให้ทรงทราบในข้อนี้ และการที่พวกข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนั้น ก็ทำให้พวกข้าพเจ้ายินดียิ่งนัก เพราะได้มีโอกาศเฝ้าพระองค์ ผู้ซึ่งจะหาเจ้านายองค์อื่นที่มีคุณสมบัติเทียบกับพระองค์ไม่ได้แล้ว


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อท่าน ดุกเกอชาตร์ ด้วยสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้าทรงเอาพระทัยใส่นักในพระราชวงศของประเทศฝรั่งเศส และส่วนองค์สมเด็จพระราชบิดาของพระองค์นั้น สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามก็ทรงเอาพระทัยใส่ยิ่งหนักขึ้น เพราะฉนั้นถ้าพวกข้าพเจ้าไม่ได้มาถวายบังคมและกระทำความเคารพต่อพระองค์แล้ว ก็เท่ากับไม่ได้ปฏิบัติการให้สม


๖๗ พระราชดำริห์ของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามและเท่ากับปฏิบัติผิดด้วยหน้าที่เช่นนั้น พวกข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างที่สุดที่ได้เห็นว่าพระองค์ทรงประ กอบด้วยพระอัธยาศัยสมราชตระกูล พระทัยก็อารีอารอบกว้างขวาง ทั้งพระนิสัยก็เต็มไปด้วยความกล้าหาญ การที่พระองค์มีพระหทัยดีนั้นก็เห็นได้โดยที่พระร่างกายสมบูรณทุกอย่าง ซึ่งพวกข้าพเจ้าแลเห็นเท่ากับเปนเดือนหรือดาวดวง ๑ อันฉายรัศมีที่สว่างและบริสุทธิ์อุปมาเหมือนพระองค์อยู่ในท่ามกลางรัศมีอันนั้น การที่ประเทศฝรั่งเศสมีเจ้านายซึ่งทรงพระลักษณะอย่างดีเช่นนี้ ต้องนับว่าประเทศฝรั่งเศสเคราะห์ดียิ่งนัก และในเวลาที่พวกข้าพเจ้ามาเจริญทางพระราชไมตรีกับประเทศฝรั่งเศสนั้น ก็บังเอิญประจวบกับเวลาซึ่งประเทศฝรั่งเศสกำลังรุ่งเรือง ทั้งมีความหวังว่าในภายภาคหน้ายังจะรุ่งเรืองยิ่งกว่านี้ เพราะเหตุที่พระองค์เท่ากับเปนหลักสำหรับให้ประเทศฝรั่งเศสให้รุ่งเรืองต่อไป


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อ มาเดอมัวเซล ด้วยในโอกาศที่พวกข้าพเจ้าได้มาเฝ้าถวายบังคมคราวนี้ พวกข้าพเจ้ามีความปีติยินดียิ่งนักที่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง ว่าพระเจ้าบนสวรรค์ได้กรุณาแก่ประเทศฝรั่งเศสโดยเฉพาะโดยทรงโปรดให้ประเทศฝรั่งเศสได้มีเจ้าหญิงอันทรงพระลักษณะดีอย่างพระองค์ ซึ่งเปนการ


๖๘

สมควรที่อาณาประชาราษฎรทั่วไปจะนิยมนับถือได้ ในข้อนี้พวกข้าพเจ้าอาจจะไปรายงารความจริงได้ เพราะพวกข้าพเจ้าได้มาเฝ้าเฉพาะพระองค์แล้ว เพราะฉนั้นพวกข้าพเจ้าขอถวายพระพร ขอให้พระองค์ได้ทรงสิริสวัสดิพิพัฒมงคลทุกประการ


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และเจ้านายทั้งหญิงและชายอันเปนเจ้านายในพระราชวงศ ในเวลาที่เข้าเฝ้าเพื่อถวายบังคมลาเมื่อวันที่ ๑๔ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๒๙)


ถ้อยคำที่กราบทูล พระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ขอพระราชทานกราบทูลสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ผู้ทรงพระเดชานุภาพอันใหญ่ยิ่ง ด้วยพวกข้าพเจ้าได้มาเฝ้าในครั้งนี้ก็เพื่อจะขอรับพระราชทานพระราชานุญาตกลับไปเฝ้าสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายพวกข้าพเจ้า เหตุที่สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามทรงตั้งพระราชหฤทัยรอฟังว่าการที่ได้ทรงแต่งราชทูตมาคราวนี้จะมีผลอย่างไร ประการ ๑ การแปลกปลาดน่าพิศวงต่าง ๆ ซึ่งพวกข้าพเจ้าจะได้นำกลับไปกราบทูล ประการ ๑ พยานอันสำคัญที่พวกข้าพเจ้าจะได้นำไปกราบทูลว่าพระองค์ได้ทรงเปนพระราชไมตรีกับสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามโดยเฉพาะ ประการ ๑ และ

๖๙ ข้อที่พวกข้าพเจ้าจะได้นำไปกราบทูลว่าพระองค์จะได้ทรงเปนพระราชไมตรีด้วยชั่วกาลนาน ประการ ๑ นั้น เปนเหตุผลซึ่งกระทำให้พวกข้าพเจ้าต้องคิดกราบถวายบังคมลาสักที หาใช่ลมแล้งหรือระดูกระทำให้พวกข้าพเจ้ากราบถวายบังคมลาไม่ และความเอื้อเฟื้อต่าง ๆ ซึ่งพวกข้าพเจ้าได้มารับในที่นี้โดยที่ทรงพระกรุณาดำรัสสั่งนั้น เปนสิ่งที่อาจจะกระทำให้พวกข้าพเจ้าลืมบ้านเกิดเมืองนอนและลืมในกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินนายของพวกข้าพเจ้าได้ทีเดียว แต่ในเวลาที่พวกข้าพเจ้าจวนจะจากและไปห่างไกลพระองค์เช่นนี้ พวกข้าพเจ้าก็หมดคำที่จะกราบทูลแสดงความในใจที่พวกข้าพเจ้า มีความนับถือนิยมในพระองค์และที่ได้ทรงพระกรุณาแก่พวกข้าพเจ้าทุกสิ่งทุกอย่างนั้น พวกข้าพเจ้าจะมิได้ลืมพระเดชพระคุณเลย เมื่อชั้นเดิมพวกข้าพเจ้าก็ได้รู้สึกอยู่ว่า เมื่อได้มาเฝ้าเห็นพระองค์แล้ว ก็คงจะได้เห็นว่าพระองค์เต็มไปด้วยพระอภินิหารและเดชานุภาพ เมื่อได้มาเฝ้าแล้วก็ได้เห็นสมจริงดังได้คาดหมายไว้ แต่พวกข้าพเจ้าจะต้องกราบทูลสารภาพว่า พวกข้าพเจ้ามิได้นึกเลยว่าพระองค์จะได้มีน้ำพระทัยดีอันอ่อนหวานเช่นนี้ ทั้งพวกข้าพเจ้าก็มิได้นึกเลยว่าพระอัธยาศัยอันดีหลายอย่าง จะมาประกอบรวมในคน ๆ เดียวได้ เพราะฉนั้นพวกข้าพเจ้าไม่ปลาดใจแล้วที่ได้เห็นอาณาประชาราษฏรของพระองค์มีความรักใคร่นับถือพระองค์จนถึงกับไม่อยากละถิ่นฐานบ้านเรือนเพราะเต็มใจสมัค อยู่ในพระราชอาณาเขตของพระองค์โดย


๗๐ เหตุที่ราษฏรพลเมืองเหล่านี้ได้รับความผาสุกจากพระองค์ทุกถ้วนหน้าในส่วนตัวพวกข้าพเจ้านั้น รู้สึกในพระเดชพระคุณที่ได้ทรงพระเมตตากรุณาแก่พวกข้าพเจ้าทุกอย่าง ทั้งรู้สึกปลื้มใจในพระอัธยาศัยอันดี และปลาดใจยิ่งนักในพระปรีชาสามารถของพระองค์ จึงเห็นพร้อมกันว่าชีวิตของพวกข้าพเจ้าสั้นนักและโลกนี้เล็กนักที่จะป่าวร้องสรรเสริญพระเกียรติคุณของพระองค์ เท่าที่พวกข้าพเจ้านึกไว้ไม่ได้เสียแล้ว ความจำของพวกข้าพเจ้าก็ไม่เพียงพอที่จะทรงจำการต่าง ๆ ไว้ได้ เพราะเหตุฉนั้นพวกข้าพเจ้าจึงต้องรีบร้อนจดข้อความต่าง ๆ ไว้เท่าที่ได้มารู้มาเห็นทุกอย่าง และถึงแม้ว่าพวกข้าพเจ้าจะได้จดจำการต่าง ๆ ไว้มากก็จริงอยู่ แต่สิ่งที่พวกข้าพเจ้ายังไม่ได้พบได้เห็น นั้นยังมีอีกมากต่อมากนัก จดหมายบันทึกซึ่งพวกข้าพเจ้าได้จดไว้นั้นจะได้อยู่ชั่วฟ้าและดิน และจะได้บัญจุไว้ในอนุสาวรีย์ที่หายากและที่มีราคาที่สุดในประเทศสยามต่อไป ฝ่ายสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้า จะได้ส่งจดหมายบันทึกเหล่านี้ไปพระราชทานแก่เจ้านายทั้งปวงซึ่งมีพระราชไมตรีติดต่อกับประเทศสยาม เพราะฉนั้นในไม่ช้าบรรดาบ้านเมืองและประเทศทั้งหลายในฝ่ายทิศตวันออก จะได้ทราบในพระเดชานุภาพของสมเด็จพระเจ้าหลุยเลอกรังอันจะหาผู้ใดมาเปรียบปานไม่ได้แล้ว และเรื่องนี้ก็จะได้เล่าสืบกันไปชั่วกาลนานมิได้มีที่สุดได้เลย


๗๑ ในที่สุดนี้พวกข้าพเจ้าจะได้เปนผู้นำข่าวอันน่ายินดีไปกราบทูลสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้า ว่าพระองค์ทรงพระเจริญหาได้มีพระโรคมาเบียดเบียนอย่างใดไม่ และพระผู้เปนเจ้าบนสวรรค์ก็ได้เปนภาระธุระที่จะพิทักษรักษาพระองค์ให้พระชนมายุได้คงยืนนาน อันไม่ควรจะมีเวลาดับสูญเลย


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อ มกุฎราชกุมาร ด้วยตามพระราชโองการของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้า และเปนระดูที่สมควรจะเดิรเรือให้สดวกได้ จึงเปนการจำเปนที่พวกข้าพเจ้าต้องมาเฝ้าทูลลากลับไปยังบ้านเมืองของพวกข้าพเจ้า ในการที่พวกข้าพเจ้าได้เปนราชทูตมาเจริญทางพระราชไมตรีคราวนี้ ไม่มีสิ่งใดที่พวกข้าพเจ้าจะถือใส่ใจ เท่ากับการที่ข้าพเจ้าได้รับเกียรติยศที่ได้มีโอกาศมาเฝ้าเฉพาะพระองค์ ซึ่งเปนโอกาศ กระทำให้พวกข้าพเจ้าได้ไปเล่าทั่วทิศตวันออก ถึงพระเกียรติยศพระเกียรติคุณของพระองค์ซึ่งทรงอยู่ในพระทัยอันดีโอบอ้อมอารี อันเปนสิ่งสมควรที่จะกระทำให้มนุษย์ทั้งปวงมีความรักใคร่ในพระองค์ ทั้งสมควรที่พระองค์ได้เปนพระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าหลุยเลอ กรังยิ่งนัก และเมื่อพวกข้าพเจ้าจะได้นำความไปกราบทูลต่อสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้า ให้ทรงทราบถึงพระเกียรติ

๗๒

ยศพระเกียรติคุณของพระองค์ ทั้งกราบหทูลให้ทรงทราบถึงพระโอรสของพระองค์แล้ว สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้าก็คงจะทรงพระโสมนัสยินดียิ่งนัก เพราะพระโอรสของพระองค์นั้นเท่ากับเปนประกันอันสำคัญ ว่าพระราชไมตรีในระหว่างประ เทศฝรั่งเศสและประเทศสยามซึ่งพวกข้าพเจ้าได้มาทำความตกลงในครั้งนี้ จะได้เปนพระราชไมตรีที่จะ ได้สืบเนื่องอยู่ชั่วกาลนานมิได้มีเวลาขาดสูญได้เลย


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อ มกุฎราชกุมารี ด้วยตามที่สมเด็จพระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงใช้ให้พวกข้าพเจ้ามาเฝ้าพระองค์นั้น มาบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกข้าพเจ้าจะต้องนำข่าวกลับไปกราบทูลต่อสมเด็จพระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามให้ทรงทราบ และข่าวต่าง ๆ ที่พวกข้าพเจ้าจะนำกลับไปกราบทูลนั้นเปนข่าวที่จะพอพระทัยสมเด็จพระราชธิดายิ่งนัก เพราะฉนั้นพวกข้าพเจ้าจึงกลั้นไม่ได้ที่จะรีบร้อนนำข่าวต่าง ๆ เหล่านั้นไปกราบทูลต่อไป พวกข้าพเจ้าจะมิได้ลืมกราบทูลต่อสมเด็จพระราชธิดา ว่าในการที่พระองค์ได้พระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าหลุยเลอกรังเปนพระราชสามีนั้น เปนการที่พระเจ้าบนสวรรค์ได้เมตตากรุณายิ่งนัก


๗๓

เพราะในข้อนี้พวกข้าพเจ้าก็ได้เห็นเปนพยานด้วยตาของตนเองซึ่งกระทำให้พวกข้าพเจ้าปีติยินดียิ่งนัก แต่เมื่อพวกข้าพเจ้าได้เล่าถวายถึงพระเกียรติยศพระเกียรติคุณ อันน่าพิศวงของพระองค์ ซึ่งตลอดทวีปยุโรปชมเชยสรรเสริญนักนั้น สมเด็จพระราชธิดาก็คงจะทรงยินดีหาสิ่งที่จะเปรียบไม่ได้แล้ว แต่เมื่อสมเด็จพระราชธิดาได้ทรงทราบ ว่าพระองค์ก็ทรงรักใคร่นับถือนั้น สมเด็จพระราชธิดาก็คงจะทรงพระโสมนัสยินดี อันพวกข้าพเจ้าจะหาถ้อยคำมากราบทูลไม่ได้แล้ว


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อท่านดุกเดอบูร์กอยน์ ขอกราบทูลเจ้าซึ่งต่อไปวันหน้าจะเปนเครื่องเชิดชูประดับของโลกนี้ ด้วยพวกข้าพเจ้าจะได้ไปทำทางไว้ในฝ่ายทิศตวันออกสำหรับให้ชื่อเสียงของพระองค์ได้แพร่หลาย เพราะในไม่กี่ปีนักก็คงจะต้องมีเสียงเล่าลือถึงเดชานุภาพของพระองค์ที่จะได้ไปชนะทัพศึกมา ถ้าในเวลานั้นพวกข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่แล้ว พวกข้าพเจ้าก็จะเปนพยานได้ว่า พวกข้าพเจ้าได้เห็นพระอภินิหารด้วยตาของพวกข้าพเจ้าเองและถึงสิ่งที่เล่าลือจะเปนสิ่งที่เหลือเชื่อ ข่าวนั้นก็กลับจะเปนจริงควรเชื่อได้ เพราะพวกข้าพเจ้าเปนพยานอยู่ในตัวแล้ว พวกข้าพเจ้าจะได้เล่าว่า เจ้าองค์นี้พวกข้าพเจ้าได้เห็นเมื่อยังทรงพระเยาว์อยู่ เวลาที่ยังทรงพระเยาว์อยู่นั้น พระลักษณะอันดีต่าง ๆ ได้ปรากฎ


๗๔

อยู่ที่พระนลาตและพระเนตร์ เพราะฉนั้นการที่ทรงกระทำต่าง ๆ ในวันนี้ เปนสิ่งที่ทรงทำได้ทั้งสิ้น สิ่งที่จะกระทำให้สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้าทรงพระโสมนัสยินดียิ่งกว่าอย่างอื่นนั้น ก็ในข้อที่พวกข้าพเจ้าจะได้ไปกราบทูลว่า พระองค์เปนหลักอันสำคัญสำหรับประเทศสยามองค์ ๑ และพระราชไมตรีที่พวกข้าพเจ้าได้มาทำความตกลงใน ครั้งนี้ ก็จะได้พระองค์เปนหลักอันจะยึดถือไว้ต่อไปได้


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อท่านดุกดังยู ขอกราบทูลเจ้าซึ่งต่อไปในวันหน้าจะได้ทำให้ศัตรูของประเทศฝรั่งเศสได้รู้สึกกำลังพระกรของพระองค์ และรู้ในความกล้าหาญเชี่ยวชาญของพระองค์ ด้วยการที่พวกข้าพเจ้าจะได้นำความไปกราบทูลสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้า ว่าในระหว่างที่พระองค์ยังทรงพระเยาว์อยู่ก็ยังมีข้อหวังได้ต่าง ๆ เพราะเหตุว่าความปรีชาสามารถและพระทัยโอบอ้อมอารีของพระองค์ได้ฉายออกมาดุจเปนรัศมีฉายออกมาจากกลีบเมฆนั้น จะเปนสิ่งกระทำให้สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้าได้ทรงหวังคอยฟังข่าวอภินิหารต่าง ๆ ของพระองค์ต่อไป เมื่อข่าวของพระองค์ได้ลือแพร่หลายออกไปแล้ว พวกข้าพเจ้าเอง จะเปนผู้ที่มีความยินดียิ่งกว่ามนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง

๗๕ เพราะพวกข้าพเจ้าจะมิได้มีเวลาลืมเลย ว่าพวกข้าพเจ้าได้รับเกียรติยศที่ได้มาเฝ้าถวายบังคมต่อพระองค์ แทนสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้า และที่ได้รับเกียรติยศฉเพาะตัวพวกข้าพเจ้าที่ได้ประทานโอกาศให้พวกข้าพเจ้าได้มาแสดงความเคารพนับถือต่อพระองค์เช่นนี้


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อท่านดุกเดอเบรี ขอพระผู้เปนเจ้าบนสวรรค์ได้โปรดให้พระองค์ได้มีไชยชนะในการทัพศึกสืบในวันหน้าต่อไป ด้วยพวกข้าพเจ้าได้รับโอกาศที่จะได้นำข่าวพระองค์ไปกราบทูลต่อสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้า ซึ่งเปนข่าวแรกที่สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามจะได้ทรงทราบเรื่องพระองค์ และเมื่อพวกข้าพเจ้าได้ไปกราบทูลว่า พวกข้าพเจ้าเคราะห์ดีที่ได้เห็นพระองค์ประสูติมา ซึ่งนับว่าเปนการมงคลอันฉเพาะประจวบกับเวลาที่พวกข้าพเจ้าได้เปนราชทูตมาเจริญทางพระราชไมตรีนั้น สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามก็คงจะทรงพระโสมนัสยินดีมากขึ้นอีก พวกข้าพเจ้าหวังใจว่าชื่อเสียงอันโด่งดังของพระองค์คงจะได้ตามพวกข้าพเจ้าข้ามทะเลไปจนถึงประเทศสยาม อันเปนประเทศซึ่งจะได้มีความนิยมนับถือในพระนามของพระองค์อยู่เสมอเปนนิตย์


๗๖

ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูล ต่อพระเชษฐาของพระเจ้าหลุยที่ ๑๔ เมื่อพวกข้าพเจ้าได้ตกลงที่จะกลับไปเฝ้าสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้าแล้ว จึงได้มาเฝ้าพระองค์เพื่อกราบทูลให้ทรงทราบว่า ความที่รู้สึกถึงพระเดชพระคุณที่ได้ทรงพระเมตตากรุณาแก่พวกข้าพเจ้านั้น พวกข้าพเจ้าจะมิได้ลืมเลย ทั้งจะได้ระฦกถึงพระอัธยาศัยอันดี ซึ่งเปนสิ่งที่คนทั่วโลกนิยมนับถือนัก ความนิยมนับถืออันนี้ พวกข้าพเจ้ามีความยินดีนักที่จะไปทำให้ความนิยมนี้ ได้เพิ่มพูลทวีขึ้นอีก ไม่ฉเพาะแต่ในราชสำนักสยามและประเทศสยามแห่งเดียว แต่จะได้ให้ราชสำนักทั้งหลายในฝ่ายทิศตวันออก ได้นิยมนับถือทั่วไปหมดเหมือนกัน เพราะข่าวที่พวกข้าพเจ้าได้เปน ทูตมาเจริญทางพระราชไมตรีนั้น ก็คงจะลือเซ็งแซ่ไปทั่วทิศตวันออกแล้ว เพราะฉนั้นพวกข้าพเจ้าจะได้ไปเล่าถึงของต่าง ๆ ที่พวกข้าพเจ้าได้มาพบมาเห็น และคำเล่าของพวกข้าพเจ้านั้นเอง ก็คงจะได้เล่าลือเซ็งแซ่ไปทั่วทิศตวันออกเหมือนกัน ในข้อความต่าง ๆ ที่พวกข้าพเจ้าจะได้ไปเล่านั้น พระนามอันสูงสุดของพระองค์ก็จะต้องมีอยู่ ในนั้นด้วยเหมือนกัน เพราะพระนามของพระองค์เปนสิ่งที่จับใจพวกข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้ไปแล้ว และต่อไปในภายภาคหน้าจนกัลปาวสาน พวกข้าพเจ้า คงจะมีความนบนอบนับถือพระนามของพระองค์อยู่ทุกเมื่อ


๗๗ ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อเจ้าหญิงมาดำ ในระหว่างเวลาที่พวกข้าพเจ้าได้มาอยู่ในประเทศฝรั่งเศส เปนเวลาที่กระทำให้พวกข้าพเจ้าได้เพิ่มพูลความนับถือในพระอัธยาศัย อันดีของพระองค์ เพราะในข้อนี้พวกข้าพเจ้าก็ได้รู้สึกมาจากคำ บอกเล่าอยู่แล้ว ว่ามีคนนิยมนับถือพระอัธยาศัยของพระองค์นัก เพราะฉนั้นการที่พวกข้าพเจ้าได้เดิรทางอันไกลจนมาถึงทวีปยุโรป และจะต้องเดิรทางย้อนกลับไปทวีปอาเซียอีกนั้น เปนการที่เบาบางโดยเหตุที่พวกข้าพเจ้าได้มีโอกาศที่จะนำพระนามของพระองค์ให้ได้ ลือเซ็งแซ่ในประเทศอันไกลที่สุด แต่ในประเทศของพวกข้าพเจ้านั้น พวกข้าพเจ้าจะได้ไปเล่าถึงพระเกียรติยศพระเกียรติคุณของ พระองค์ และในไม่ช้าสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้าและสมเด็จพระราชธิดาก็คงจะมีความรักใคร่ในพระองค์เท่ากับสมเด็จพระเจ้าหลุยเลอกรังทรงรักใคร่พระองค์เช่นนั้น


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อท่านดุกเดอชาตร์ ในการที่พวกข้าพเจ้าจะกลับไปเฝ้าสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของพวกข้าพเจ้าในครั้งนี้ ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้พวกข้าพเจ้ายินดีกว่าการที่พวกข้าพเจ้าจะได้นำความไปกราบทูลให้ทรงทราบ ว่าพระราชวงศ์ฝรั่งเศสกำลังดำรงอยู่ในทางเจริญ และในส่วนพระองค์นั้น พวกข้าพเจ้าได้เห็นพระอัธยาศัยซึ่งดีเกินกว่าพระชันษา และดียิ่ง


๗๘ กว่าคนทั้งหลายทั้ง เมื่อผู้ใดได้มาเห็นพระปรีชาสามารถและความกล้าหาญของพระองค์แล้ว ผู้นั้นจะต้องนึกปลาดใจทุกคน พวกข้าพเจ้าจะได้กราบทูลต่อสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามว่า การที่ประเทศฝรั่งเศสได้มีความหวังดีในส่วนพระองค์นั้นเปนสิ่งที่สมควรยิ่งนัก และต่อไปในวันหน้าประเทศสยามคงจะไม่มีพระสหายที่จะดียิ่งกว่าพระองค์ไปได้


ถ้อยคำที่ราชทูตสยามได้กราบทูลต่อเจ้าหญิงมาดเดอมัวเซล ด้วยพระอัธยาศัยอันดีของพระองค์ซึ่งเพิ่มทวีขึ้นทุก ๆ วันนั้น ได้กระทำให้พวกข้าพเจ้าเกิดความนับถือนิยมเพิ่มขึ้นอีก เพราะความนับถืออันนี้ได้บังเกิดตั้งแต่วันแรกที่พวกข้าพเจ้าได้ รับเกียรติยศ ที่ได้มาถวายบังคมต่อพระองค์อยู่แล้ว การที่พวกข้าพเจ้าจะต้อง ทูลลากลับไปในครั้งนี้ เปนโอกาศที่พวกข้าพเจ้าจะได้นำข่าวเรื่อง พระอัธยาศัยของพระองค์ ไปเล่าสู่ในที่ทั้งปวงและจะได้ไปเล่า ให้ชนชาวประเทศสยามฟัง และต่อไปบุคคลทั้งหลายจะ ต้องเอาพระอัธยาศัยของพระองค์เปนเยี่ยงอย่างสำหรับให้เจ้าหญิงทั้งปวง ได้ปฏิบัติต่อไป


งานนี้เป็นสาธารณสมบัติ เนื่องจากต้องด้วยหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗

  • (๑) เป็นภาพถ่าย โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง หรืองานแพร่เสียงแพร่ภาพ ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับห้าสิบปี นับแต่วันสร้างสรรค์ขึ้นครั้งแรก (หรือวันที่มีการเผยแพร่งานครั้งแรก) แล้วแต่ว่ากรณีใดปรากฏก่อน
  • (๒) เป็นงานศิลปประยุกต์ ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับยี่สิบห้าปี นับแต่วันสร้างสรรค์หรือเผยแพร่ครั้งแรก
  • (๓) เป็นงานโดยผู้ไม่เปิดเผยชื่อหรือผู้ใช้นามแฝง ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับห้าสิบปี นับแต่วันสร้างสรรค์หรือเผยแพร่ครั้งแรก
  • (๔) เป็นงานในหมวดหมู่อื่น ๆ ที่ไม่เข้าเกณฑ์ข้างต้น และผู้สร้างสรรค์คนสุดท้ายถึงแก่ความตายมากว่าห้าสิบปีแล้ว
  • (๕) เป็นกรณีที่ผู้สร้างสรรค์งานนี้ไม่ปรากฏ ผู้สร้างสรรค์งานนี้เป็นนิติบุคคล หรือตายก่อนการเผยแพร่งาน ประกอบกับงานนี้มีอายุอย่างน้อยห้าสิบปี นับแต่วันเผยแพร่งานครั้งแรก