เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๙๙ ง
๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๓
ราชกิจจานุเบกษา
ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ ๕ จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ นั้น
โดยที่รัฐบาลตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด - 19 เพื่อให้บรรดาสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมที่อาจมีความเสี่ยงสูงต่อการระบาดของโรคโควิด - 19 สามารถเปิดดำเนินการได้ และได้ดำเนินการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องและค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาและมีคำสั่งอนุญาตให้สถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมบางประเภทให้สามารถทดลองเปิดดำเนินการได้ภายใต้มาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค ตามข้อเสนอของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ซึ่งจากการประเมินผลพบว่า สถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมนั้นมีความเหมาะสมที่สามารถเปิดดำเนินการต่อไปได้
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ และมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ การเปิดดำเนินการสถานที่ กิจการ และกิจกรรมต่าง ๆ ให้สถานที่ กิจการ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยผ่อนคลายหรืออนุญาตให้เปิดดำเนินการไว้แล้วคงดำเนินการได้ต่อไปภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา รวมทั้งมาตรการป้องกันโรค การจัดระบบและระเบียบต่าง ๆ ตามที่ทางราชการกำหนดไว้เดิม และให้สถานที่ กิจการ และกิจกรรมที่นายกรัฐมนตรีได้เคยอนุญาตให้เปิดดำเนินการในขั้นทดลองดังต่อไปนี้ สามารถเปิดดำเนินการได้ต่อเนื่องตามความสมัครใจและความพร้อม
(๑)การเปิดโรงเรียน สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย โรงเรียนหรือสถาบันกวดวิชา และการจัดให้มีการเรียนการสอนแบบครบจำนวน ครบห้องเรียน ครบชั้นเรียน