หน้า:พงศาวดารเหนือ - ๒๔๗๔.pdf/40

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๘

ครั้นมาถึงที่สระน้ำนั้นก็จอดเกวียนพร้อมกัน จึงให้หานายกองให้เปิดประตูจะตักน้ำ หาพบนายกองไม่ ถามไพร่ ๆ บอกว่านายร่วงบุตรนายคงเปนนายได้รักษา จึงบอกนาย ๆ ก็มาพูดจากับนักคุ้มว่าลุ้งน้ำเอามาหนักเสียเปล่า ครั้งนี้ไขว่ชลอมใส่ไปเถิด จะได้มากได้พอนานจึงมาตัก นักคุ้มก็ตอบว่าตาห่างจะขังน้ำได้ฤๅ นายร่วงว่ากลัวจะไม่มีที่ใส่อิก นักคุ้มกลัวก็รับ จึงเกณฑ์สานชลอมเล่มละ ๒๕ ใบ ให้นักคุ้มนำกราบทูลพระเจ้าลแวกเถิด ครั้นกำหนดจะกลับจึงเปิดประตู เอาชลอมลงจุ้มน้ำยกขึ้นใส่เกวียนบรรทุกลงแล้ว นักคุ้มกลัวก็ยกไปจากที่นั้น ครั้นแรมร้อนมาถึงแดนด่าน คนคุมน้ำมาสงไสยในใจอยู่ว่าชลอมจะขังน้ำจะได้ฤๅ บันดาลให้น้ำในเล่มเกวียนนั้นไหลลงเห็นทั่วกันจึงสรรเสริญ ฉนั้นจึงจาฤกลงไว้ ที่นั้นจึงเรียกว่าด่านพระจาฤก จึงยกไปทางตึกโช ครั้นถึงเมืองเข้าแล้วผู้คนก็เล่าฦๅกันว่าเอาชลอมบรรทุกมาไม่มีน้ำ พระเจ้ากัมพูชาจึงเอานักคุ้มนายกองคุมเกวียนไปถาม ก็ทูลทุกประการ ยกชลอมน้ำแกล้งเทลงในพเนียงจนไม่มีที่ใส่ เสนาอำมาตย์จึงกราบทูลพระเจ้ากัมพูชา ๆ ตกพระไทยว่าผู้มีบุญเกิดแล้ว เราคิดว่าจะจับตัวฆ่าเสียให้ได้ เสนาพฤฒามาตย์ราชปโรหิตพระยาพระเขมรก็เห็นด้วย จึงเกณฑ์ทัพเมืองขอมไปตามจับขอมรับอาสาตามจับ นายร่วงรู้ข่าวดังนั้นก็หนีไปถึงแดนเมืองพิจิตรไปอาไศรยเขาอยู่ริมวัดขอเข้า ชาวบ้านกินชาวบ้านเอาเข้ามาให้แก่นายร่วงกับปลาหมอตับหนึ่งนายร่วงอดอาหารมา ก็กินหยิบปลาข้างละแถบแล้วโยนลงไปในสระให้ปลาเปนว่ายไป จนคุ้มเท่าบัดนี้ นายร่วงก็หนี