หน้า:พงศาวดารเหนือ - ๒๔๗๔.pdf/73

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๖๑

พลับพลาอยู่ที่นั้น ราษฎรนั้นนับถือว่าเป็นผู้มีบุญ ก็เข้าประชุมสโมสรพร้อมกัน จึงยกให้เป็นเจ้าแผ่นดิน บังคับบัญชาราชการตามประเพณีอย่างธรรมเนียมมาแต่ก่อน ครั้นเรียบราบสำเร็จแล้ว จึงยกพระเชษฐาธิราชให้ครองเมืองสุคันธคีรี พระเจ้าท้องลันราชเป็นประถมกษัตริย์สืบมา พระยาสุคันธคีรีเจ้าเมืองเชียงใหม่ จะใคร่หาภรรยาให้แก่บุตรเป็นอัครมเหษี พระยาสุคันธคีรีให้หาโหรามาพิเคราะห์ดูจะอยู่ทิศใด โหรกราบทูลว่าคู่ต่างเมือง มีผู้มาบอกข่าวว่าบุตรพระยาอู่ทองคนหนึ่งงามดังนางสวรรค์ เจ้าไชยทัตจะใคร่ได้เป็นพระอัครมเหษี จึงเอาเพศเป็นเถร เจ้าไชยเสนผู้น้องเป็นภิกษุไปเพื่อน พากันมาสองคน ครั้นมาถึงราชธานีเข้าแล้วก็อาไศรยอยู่ริมพระราชวัง ฟังดูคนทั้งหลายในเมืองจะพูดจากันเป็นประการใด ก็ลาเพศเป็นเถรแล้ว ก็ปลอมเข้าไปในวัง จะเข้าวังนั้นมิได้ เห็นแต่ต้นพิกุลอยู่ริมกำแพงวัง ก็ปีนข้ามกำแพงวังเข้าไป กำบังกายมิให้คนเห็นเจ้าจึงเข้าไปหานาง ๆ จึงถามว่าท่านนี้เป็นบุตรผู้ใด พระองค์จึงบอกว่าเรานี้เป็นบุตรพระเจ้าเชียงใหม่ พี่จะใคร่ได้นางเป็นอัครมเหษี แต่ไปมาหากันจนมีครรภ์แก่ พระยาอู่ทองพิจารณาดูเห็นผิดประหลาดอยู่ ครั้นจะว่ากลัวลูกจะน้อยใจ พระทวารถึงเจ็ดชั้นยังเข้ามาได้ผิดประหลาดนัก เห็นอยู่แต่ท่อน้ำ ทรงพระดำริห์ฉนั้นแล้ว ก็สั่งให้ทำลอบเหล็กใบหนึ่ง ดักไว้ที่ท่อน้ำ เจ้าไชยทัตหาทันรู้ไม่ เคยประดาน้ำเข้าไปก็ติดลอบตาย พระยาอู่ทองใช้คนไปดู เห็นเจ้าไชยทัตตายอยู่ จึงว่าทำผิดคิดมิชอบเข้าลอบตายเอง จึงให้เอาศพนั้นมาเห็นรูปงามนักหนา จะเป็นเชื้อกษัตริย์องค์ใดเสียดายนัก จึงทรงดำริห์ว่าจะมาแต่ผู้เดียวฤๅ ก็ให้เที่ยวหาดู ครั้นมาพบน้องชายเข้าที่วัดรามวาศ