อย่าบวชให้นายอิ่มผู้ต้องพิพาทด้วยสูบยาฝื่นนี้ในพระพุทธสาศนา แลอย่าให้เจ้าอาวาศเจ้าอธิการรับไว้ให่อยู่ในพระอารามหรือในวัดเปนอันขาด ถ้าไม่ระวังตรวจตราจะต้องถูกปรับตามหมายห้ามของกระทรวงธรรมการ
ด้วยพระราชบัญญัติเพิ่มเติมวิธีพิจารณาความอาญา ศก ๑๒๐ ซึ่งลงมาในหนังสือราชกิจจานุเบกษา แผ่นที่ ๕ น่า ๕๘ วันที่ ๕ พฤษภาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๐ นั้น ความในมาตรา ๒ เคลื่อนคลาศอยู่ ที่ถูกนั้น ดังนี้ "มาตรา ๒ ห้ามไม่ให้ศาลประทับฟ้องราษฎรเรียกข้าราชการตลอดถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านซึ่งได้ตั้งตามพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ รัตนโกสินทรศก ๑๑๖ เปนจำเลยในความอาญามีข้อหาในเรื่องที่เกี่ยวกับน่าที่ราชการ เว้นไว้แต่โจทย์จะได้นำพยานมาสืบบ้างแล้วพอเห็นได้ว่า จำเลยมีพิรุธ จึงให้ศาลส่งฟ้องไปให้แก่ผู้บังคับข้าราชการที่เปนจำเลยนั้นให้ทราบก่อน ๓ วัน แล้วจึงให้ออกหมายไปถึงจำเลยผู้นั้น" แจ้งความมาณวันที่ ๑๑ พฤษภาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๐
|
(ต่อแผ่นที่ ๖)
เวลาเที่ยงครึ่ง เรือพระที่นั่งถึงเมืองสมุทปราการ หยุดทอดสมอรอคอยน้ำอยู่ที่น่าเมือง พระสมุทบุรานุรักษ์ ผู้ว่าราชการเมือง กับข้าราชการในเมืองนั้น มาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทบนเรือพระที่นั่ง แลมีราษฎรนำสิ่งของลงเรือมาทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออก มีพระราชดำรัสด้วยผู้ที่มาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทตามสมควร แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานดอกไม้เทียนธูปให้พระสมุทบุรานุรักษ์นำไปบูชาพระสมุทเจดีย์ พอเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ น้ำขึ้นเต็มฝั่ง เรือพระที่นั่งถอนสมอใช้จักร์ออกจากเมืองสมุทปราการ ในเวลาที่เรือพระที่นั่งแล่นผ่านน่าป้อมแผลงไฟฟ้า เมืองนครเขื่อนขันธ์ ป้อมผีเสื้อสมุท ป้อมพระจุลจอมเกล้า เมืองสมุทปราการ เจ้าพนักงานกรมทหารเรือซึ่งอยู่ประจำป้อมได้ยิงปืนใหญ่ถวายคำนับป้อมละ ๒๑ นัด เวลา ๒ ทุ่มเศษ เรือพระที่นั่งข้ามพ้นสันดอนแล่นตัดไปทางฝั่งตวันตก วันที่ ๖ พฤษภาคม เรือพระที่นั่งเดินพอแลเห็นเขาริมฝั่ง เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ ถึงปากอ่าวเมืองชุมพร หยุดทอดสมอ พระยาำดำรงสุจริต ข้าหลวงเทศาภิบาล กับพระยาวรสิทธิ์เสวีวัตร์ ซึ่งกลับจากราชการเมืองภูเก็จ มาพักอยู่ที่นี้ ได้มาเฝ้าทูลลอองธุลี |
หน้า:พรบ เพิ่มเติม วิอ ๑๒๐ (แก้คำผิด).pdf/1
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
เล่ม ๑๘ น่า ๙๕
วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๑๒๐
ราชกิจจานุเบกษา