หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/103

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๖

ฟังก็เชื่อถือ พระราชดำริห์ก็เกรงฝีมือทหารไทยยิ่งนัก แลพระเจ้าฝรั่งเศสนั้นเสด็จออกเหนือราชาอาศน์อันสูง เพลาเช้าแลเห็นพระกายนั้นมีสีอันแดง เพลากลางวันเห็นพระกายมีสีอันเขียว เพลาเย็นเห็นพระกายมีสีอันขาว ราชทูตเข้าเฝ้าเปนหลายเวลา ได้เห็นดังนั้น มีความสงไสยนัก วันหนึ่งจึงตรัศสั่งให้ถามทูตว่า ตัวท่านเปนขุนนางผู้ใหญ่ฤๅเปนขุนนางผู้น้อย กล่าวถ้อยคำสัตย์จริงยิ่งนัก อนึ่ง อย่างธรรมเนียมฝ่ายนครศรีอยุทธยา ถ้าแลขุนนางผู้ใดพระเจ้ากรุงไทยทรงพระกรุณาโปรดปรานมากกว่าข้าราชการทั้งปวง แลพระราชทานอไภยแก่ขุนนางผู้นั้นเปนประการใด เราจะโปรดปรานพระราชทานอไภยแก่ท่านเหมือนดังนั้น ราชทูตคิดจะใคร่เห็นพระกายซึ่งมีสีต่าง ๆ หลายวันมาแล้ว ครั้นได้โอกาสจึงให้กราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าเปนแต่ขุนนางผู้น้อยสำหรับใช้สอยไปมาค้าขายในนานาประเทศ ทั้งสติปัญญาก็น้อยนัก อันข้าราชการผู้ใหญ่ที่มีสติปัญญายิ่งกว่าข้าพระพุทธเจ้านั้นมีเปนอันมาก อนึ่ง อย่างธรรมเนียมข้างพระนครศรีอยุทธยา ถ้าพระเจ้ากรุงไทยทรงพระมหากรุณาขุนนางผู้ใดมากกว่าข้าราชการทั้งปวง ก็พระราชทานอไภยโปรดให้ผู้นั้นเข้าเฝ้าใกล้พระองค์กราบถวายบังคมถึงพระบาทยุคลทุกครั้ง พระเจ้าฝรั่งเศสได้ทรงฟังก็เชื่อ จึงโปรดพระราชทานอไภยให้ราชทูตเข้าไปถวายบังคมถึงฝ่าพระบาททุกเวลาเฝ้า ราชทูตจึงได้เห็นราชาอาศน์อันเรี่ยรายไปด้วยทับทิมโดยรอบในเพลาเช้า เพลากลางวันนั้นเรี่ยรายไปด้วยพลอยมรกฎ เพลาเย็นเรี่ยรายไปด้วยเพ็ชร แสงแก้วขึ้นจับพระองค์จึงมีสีต่าง ๆ อย่างละเวลาเห็นปรากฎ.