หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/110

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๗๓

เมืองอังวะ พลางเกณฑ์กันให้ขนอาศพพม่าที่ตายออกไปเสียนอกค่าย พอกองทัพไทยซึ่งยกหนุนมาช่วยนั้นมาถึง ก็เข้าถอนขวากแหกค่ายเย่อค่ายปีนค่าย พวกนายทัพพม่าสาลวนไล่พลออกต่อรบ ยิงปืนใหญ่น้อยแลพุ่งซัดแหลนหลาวสาตราวุธเปนอลหม่าน ส่วนพระยาสีหราชเดโชต้องพันธนาอยู่ จึงพิจารณาดูเมฆฉายในอากาศเห็นศุภนิมิตรแล้วร่ายพระพุทธมนต์คาถาเสดาะพันธนาลุ่ยหลุดออกจากกายได้สิ้น แล้วลุกแล่นไปชิงเอาดาบพม่าได้ ก็ไล่ฟันพม่าซึ่งคุมอยู่นั้นตายเปนหลายคน พวกพม่าวิ่งหนีกระจายกันออกไป ก็เอาดาบเข้าตัดเชือกซึ่งผูกมัดพวกทหารออกได้ประมาณ ๑๐ คน แลทหารเหล่านั้นก็เข้าช่วงชิงอาวุธพวกพม่าตัดเชือกมัดพวกกันต่อ ๆ กันไปจนสิ้น ก็พร้อมกันแล่นไล่ฆ่าฟันพม่าในค่ายนั้นล้มตายเปนอันมากแตกหนีไปสิ้น ชิงเอาค่ายนั้นได้ นายกองทัพหนุนเห็นพม่าแตกหนีทิ้งค่ายตำบลนั้นเสียแล้ว แลพระยาสีหราชเดโชกับพวกทหารแก้ตัวออกได้แล้ว ก็ช่วยกันตีค่ายอื่น ๆ ต่อไป พวกพลพม่าพากันตื่นตกใจเสียทีไม่เปนอันที่จะสู้รบวิ่งกระจัดพลัดพรายกันไป กองทัพไทยไล่ติดตามฆ่าฟันพม่าเสียครั้งนั้นเปนอันมาก แลมังจาเลราชบุตรพระเจ้าอังวะซึ่งเปนแม่ทัพใหญ่หนีมิทันก็ตายอยู่ในค่าย นายทัพนายกองพม่าตายลงเปนหลายคน ก็เสียค่ายทั้งสิ้น พากันหนีเข้าเมืองอังวะ ทัพไทยได้ไชยชำนะ จับได้พม่าเชลยแลช้างม้าเครื่องสาตราวุธก็มาก ให้คุมส่งไปยังท่านแม่ทัพ แจ้งข้อราชการทั้งปวงให้ทราบ เจ้าพระยาโกษามีความยินดี จึงแต่งหนังสือบอกให้ม้าเร็วอิก ๓๐ ม้าถือหนังสือรีบลงมากราบทูลพระกรุณายังกรุงเทพมหานครในวันนั้น แลม้าใช้ซึ่งถือหนังสือบอกพวกหลังเร่งรีบมาถึงพระนครศรีอยุทธยาในวัน