หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/111

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๗๔

เดียวกันกับพวกก่อน คลาศกันประมาณ ๓ นาฬิกาเศษ สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวยังตรัศอยู่กับพระพิมลธรรม พอนายเวรมหาดไทยนำผู้ถือหนังสือบอกฉบับหลังเข้าเฝ้ากราบบังคมทูลพระกรุณาอ่านหนังสือบอกถวาย ได้ทรงทราบ ดีพระไทยนัก ตรัศสรรเสริญพระพิมลธรรมว่า ดูแม่นหาผู้เสมอมิได้ แล้วทรงถวายไตรจีวรผ้าแดงเทศไตรหนึ่งเปนบำเหน็จ นิมนต์ให้กลับไปอาราม แล้วพระราชทานรางวัลแก่ม้าใช้ผู้ถือหนังสือบอกทั้งสองพวก โปรดให้กลับคืนไปยังกองทัพ พลางตรัศสรรเสริญพระยาสีหราชเดโชว่า เปนยอดทหารหาผู้เสมอเปนอันยาก แล้วเสด็จขึ้น.

ฝ่ายท้าวพระยานายทัพนายกองทั้งปวงก็ยกพลทหารเข้าไปในค่ายพม่าซึ่งแตกหนีไปนั้น แล้วให้ตั้งค่ายน้อยใหญ่รายโอบเมืองไปทั้ง ๓ ด้านใกล้เมืองเข้าไปกว่าค่ายเดิม พม่าชาวเมืองกลัวฝีมือทหารไทยยิ่งนัก มิอาจออกมาต่อรบนอกเมืองได้ พระเจ้าอังวะก็ให้เกณฑ์ทหารขึ้นประจำน่าที่เชิงเทินรอบเมืองรักษาเมืองมั่นไว้ กองทัพไทยยกเข้าหักเอาเมืองเปนหลายครั้ง ชาวเมืองต่อรบต้านทานเปนสามารถ เข้าเมืองมิได้ ก็ถอยออกมารักษาค่ายมั่นอยู่ แลพลพม่าชาวเมืองจัดแจงการป้องกันเมืองมั่นคงมิได้ประมาททั้งกลางวันกลางคืน ขณะนั้น ในเมืองอังวะเข้าแพงเปนทนานละสองบาท ชาวเมืองอดอาหารซูบผอมล้มตายเปนอันมาก ฝ่ายกองทัพไทยก็กันดารขัดสนเสบียงอาหาร เกณฑ์กันไปเที่ยวเสาะแสวงหาอาหารตามบ้านน้อยเมืองใหญ่ในแว่นแคว้นเมืองอังวะ ก็ได้มาบ้างแห่งละน้อย ๆ ไม่พอแจกจ่ายรี้พลในกองทัพ พลทหารอดอยากลำบากป่วยเจ็บล้มตายก็มาก ท้าวพระยานายทัพนายกองทั้งปวง