หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/112

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๗๕

จึงปฤกษากันว่า เสบียงอาหารเราก็กันดารนัก เห็นจะตีเอาเมืองมิได้ในครั้งนี้ จะต้องล่าทัพกลับไป จึงพากันเข้าไปแจ้งเหตุแก่เจ้าพระยาโกษาแม่ทัพ ๆ ได้แจ้งดังนั้นก็เสียใจนัก จึงคิดการที่จะล่าทัพอย่าให้พม่าติดตามได้ แล้วปฤกษากับนายทัพนายกองทั้งปวงว่า บัดนี้ รี้พลเรากันดารอาหารถอยกำลังทั้งไข้เจ็บก็มาก แลเราจะล่าทัพกลับไปโดยตรงนั้นมิได้ พม่าชาวเมืองจะได้ทียกออกติดตามตีตัดท้าย รี้พลเราจะพินาศฉิบหายเปนอันมาก จำจะคิดกลอุบายฬ่อลวงให้พม่าเข็ดขยาดฝีมือเราเสียก่อน จึงจะผันผ่อนล่าทัพกลับไปได้โดยสดวกไม่มีไภยอันตราย แลท้าวพระยานายทัพนายกองทั้งปวงก็เห็นชอบด้วยพร้อมกัน เจ้าพระยาโกษาแม่ทัพจึงแต่งหนังสือฉบับหนึ่งเปนใจความว่า หนังสือเราผู้เปนมหาจตุรงคบรินายกดุจจักรแก้วอันประดิษฐานใต้เบื้องบงกชเรณูมาศพระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุทธยาผู้เปนอรรคอิศราธิปไตยในสยามประเทศเขตขัณฑสิมาปราจิณทิศมาถึงเสนาบดีกรุงรัตนบุระอังวะ ด้วยเรากราบทูลพระกรุณารับอาสายกพยุหโยธาทัพมาครั้งนี้หมายจะตีเอากรุงรัตนบุระอังวะทูลเกล้าฯ ถวายสนองพระเดชพระคุณให้จงได้ จะให้แผ่ผ่านพระราชอาณาเขตรปกครองครอบงำไปในภุกามประเทศแลรามัญประเทศทิศอัษฎงคพิไสยทั่วทั้งสิ้น แลพลทวยหาญพม่ากับไทยก็ได้ต่อยุทธเห็นกำลังแลฝีมือกันเปนหลายครั้ง ซึ่งใครจะมีไชยแลปราไชยนั้นก็ย่อมแจ้งอยู่แก่ใจด้วยกันแล้ว แม้นจะขับเคี่ยวกระทำสงครามกันสืบไป มาทว่าเราจะได้เมืองก็เหมือนหนึ่งไม่ได้ ด้วยในเมืองอังวะขัดสนเสบียงอาหารกันดารนัก ฝ่ายเราจะอยู่รักษาเมืองก็ยาก ประการ