หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/116

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๗๙

อยู่ ก็เปิดประตูเมืองกรูกันเอาหาบคอนออกมา ปราถนาจะเก็บเอาเสบียงอาหารแลสิ่งของอันเหลืออยู่ในค่าย ครั้นมาถึงค่ายน่าซึ่งเปล่าอยู่นั้น ก็กรูกันเข้าไปในค่าย ก็มิได้สิ่งของอันใด แล้วชวนกันแล่นออกไปยังค่ายชั้นนอกซึ่งกองทัพไทยซุ่มอยู่นั้น ครั้นเห็นเงียบสงัดอยู่ ก็มิได้พิจารณา แลเปิดประตูกรูกันเข้าไปในค่ายนั้นทุก ๆ ค่าย ฝ่ายกองทัพไทยซึ่งซุ่มอยู่ในค่ายทั้งหลายนั้นก็วางปืนจ่ารงค์มณฑกนกสับระดมเอาพม่าชาวเมืองทั้งหลายล้มตายเปนอันมาก บ้างก็ออกไล่รุกรันฟันแทงไป พม่าทั้งหลายมิทันรู้ตัว ก็วิ่งรส่ำรสายไปเปนอลหม่าน แลจะหนีกลับเข้าเมือง พลทหารไทยซึ่งอยู่สองข้างเมืองนั้นก็ออกวกหลังไล่รุกรันฟันแทงพม่าทั้งหลายล้มตายในที่นั้นเปนอันมาก แลจับได้เปนส่งมายังค่ายหลวงนั้นก็มาก กองทัพไทยฆ่าพม่าเสียแลจับเปนได้นั้นก็มากกว่าหมื่น พม่าทั้งหลายซึ่งรอดไปได้บ้างนั้นก็หนีเข้าเมือง พลทหารไทยไล่ติดตามไปถึงประตูเมือง ชาวเมืองปิดประตูเมืองเสียทัน ก็ขึ้นประจำรักษาน่าที่เชิงเทินหอรบป้องกันเมืองเปนสามารถ ทัพไทยก็มิอาจเข้าเมืองได้ ก็ถอยกลับออกมายังค่าย แลพม่าชาวเมืองอังวะทั้งหลายครั้งนั้นถึงพินาศฉิบหายเปนอันมาก ที่เหลืออยู่นั้นสดุ้งตกใจกลัวทัพไทยยิ่งนัก ต่างคนต่างร้องไห้ร่ำรักญาติทั้งหลายอันล้มตายหายจากกันไปนั้นทุกบ้านทุกเรือน แลในเมืองอังวะครั้งนั้นเงียบเหงาเศร้าโศกวิโยคพลัดพรากซึ่งกันแลกันเปนอันมากนัก.

ฝ่ายเจ้าพระยาโกษาธิบดีก็ส่งหนังสือเข้าไปอิกฉบับหนึ่งเล่า ในหนังสือนั้นว่า พม่าชาวเมืองอังวะนี้มิได้มีสติปัญญา หนาไปด้วยโมหครอบงำอยู่ในสันดาน มิได้รู้ในการสงครามทั้งปวง แลมิได้