หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/120

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๘๓

แล้วก็ยังไม่ได้ จำจะต้องแต่งหนังสือบอกให้ม้าเร็วถือลงไปกราบทูลพระกรุณายังกรุงเทพมหานครให้ทราบเหตุทั้งปวง แลเราจะคิดการเผาเมืองในเพลางคืนจะเข้าปล้นเอาเมือง ถึงมาทว่าไม่ได้เมืองเราจะต้องล่าทัพกลับไปก็ดี แลกระทำให้ชาวเมืองทั้งหลายได้ทุกขเวทนาลำบากมากอยู่แล้วก็มิอาจสามารถจะติดตามได้ กองทัพเราก็จะกลับไปโดยสดวก ครั้นปฤกษาเห็นพร้อมกันแล้ว ก็จัดแจงกองทัพคุมเอาช้างม้าพลาพลเดินเท้าทั้งหลายอันป่วยเจ็บทุพพลภาพนั้นล่าลงไปเสียก่อนสองสามวัน แล้วจึงให้กระทำลูกธนูพันหนึ่งผูกเพลิงอังแพลมทุก ๆ เล่มพร้อมเสร็จ ครั้นค่ำลงเพลาประมาณยามหนึ่ง จึงขับพลทหารเข้าแหกหักเอาเมืองแลยิงธนูทั้งหลายเข้าไปในเมืองนั้น ส่วนลูกธนูทั้งหลายก็ตกลงถูกหลังคาเรือนทั้งหลายในเมืองเชียงใหม่ แลเพลิงอังแพลมซึ่งผูกลูกธนูทั้งหลายนั้นก็ติดขึ้นไหม้ไปทุกตำบลเปนอลหม่าน พลลาวชาวเมืองซึ่งรักษาน่าที่ทั้งปวงเห็นเพลิงไหม้ดังนั้นก็ตกใจ ต่างคนต่างจะไปบ้านเรือนแห่งตน ๆ แลจะทิ้งน่าที่เสีย ท้าวพระยาเสนาลาวนายด่านนายกองเจ้าน่าที่ทั้งหลายมิให้ลงจากน่าที่ แลให้รบพุ่งป้องกันเมืองไว้มิได้อาไลยในสิ่งของเย่าเรือนทั้งปวง สุดแท้แต่อย่าให้เสียเมืองแก่ข้าศึกได้ ที่เหลือจากน่าที่นั้นก็ช่วยกันดับเพลิงบ้าง ๆ ก็เก็บสิ่งของทั้งปวง แลเพลิงนั้นใช่เกิดแต่แห่งเดียว ที่ลุกลามไหม้ไปเปนหลายแห่ง ชาวเมืองมิทันจะดับได้ ก็ไหม้เรือนทั้งหลายในเมืองนั้นมากกว่าพัน ที่อยู่รักษาน่าที่นั้นก็รบพุ่งป้องกันเปนสามารถ ทัพไทยมิอาจแหกหักเอาเมืองได้ก็ถอยกลับออกมายังค่าย ครั้นเพลาสองยาม ก็เลิกทัพกลับมาโดยลำดับมารควิถีตราบเท่าถึงเมือง