หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/124

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๘๗

เปนอันมาก ด้วยเจ้าพระยาโกษาขุนเหล็กคนนี้เปนลูกพระนมแลได้รับพระราชทานนมร่วมเสวยมาแต่ยังทรงพระเยาว์นั้น แลทรงพระกรุณาพระราชทานฌาปนกิจตามอย่างเสนาบดีเสร็จแล้ว จึงมีพระราชโองการตรัศปฤกษาด้วยท้าวพระยาเสนาบดีมนตรีมุขทั้งหลายว่า พระยาแสนหลวงเจ้าเมืองเชียงใหม่คิดอ่านฬ่อลวงเราเปนหลายครั้งแล้ว ยังมิหนำซ้ำกลับแขงเมืองต่อรบอิกเล่า แลเราจะละพระยาแสนหลวงไว้นั้นมิได้ จำจะยกพยุหโยธาหาญไปตีเอาเมืองเชียงใหม่ให้จงได้ ท่านทั้งหลายจะเห็นเปนประการใด จึงท้าวพระยาเสนาบดีมนตรีมุขทั้งหลายก็เห็นพร้อมโดยพระราชดำริห์นั้น ในปีฉลู ตรีนิศกนั้น สมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าช้างเผือกก็มีพระราชดำรัศให้ท้าวพระยามุขมนตรีตรวจจัดกองทัพพลสกรรจ์ลำเครื่องสี่หมื่น ช้างเครื่องสองร้อย ม้าสี่ร้อย สรรพด้วยเครื่องสรรพาวุธปืนใหญ่ปืนน้อยกระสุนดินประสิวให้พร้อมไว้ แลดำรัศให้หานายปานผู้น้องเจ้าพระยาโกษาอันถึงแก่อนิจกรรมซึ่งได้รับอาสาออกไปได้ราชการณเมืองฝรั่งเศสนั้นเข้ามาเฝ้า แล้วก็มีพระราชโองการตรัศเหนือเกล้าฯ โปรดให้นายปานเปนเจ้าพระยาโกษาธิบดี แลทรงพระกรุณาดำรัศว่า ขุนเหล็กพี่ท่านซึ่งถึงแก่มรณภาพนั้นชำนิชำนาญในการอันเปนแม่ทัพ แลบัดนี้ เราจะให้ท่านเปนที่เจ้าพระยาโกษาธิบดี แลจะให้เปนแม่ทัพแทนพี่ชายไปตีเมืองเชียงใหม่ ยังจะได้ฤๅมิได้ จึงเจ้าพระยาโกษาปานกราบทูลพระกรุณาว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะขอลองศึกดูก่อน แลจะขอรับพระราชทานพระราชอาชญาสิทธิเหมือนพระโองการนั้น ถ้าแลเห็นจะกระทำสงครามได้แล้ว ก็จะขออาสาไปตีเมืองเชียงใหม่ทูลเกล้าฯ ถวายให้จงได้ สมเด็จบรมบพิตร