หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/127

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๐

เลมิดมิได้ทำตามพระราชโองการแห่งเรา โทษท่านถึงตาย แล้วก็ให้ประหารชีวิตรเสีย แลให้ตัดเอาศีศะเสียบไว้ที่ปลายไม้เสาค่ายลำนั้น แล้วก็คืนลงสู่เรือพระที่นั่งกลับเข้ามายังพระราชวัง เจ้าพระยาโกษาทำครั้งนั้นเพื่อจะให้คนทั้งหลายเข็ดขามคร้ามอำนาจอาชญาสิทธิขาดในราชการงานสงครามนั้น ครั้นมาถึงพระราชวัง ก็ขึ้นเฝ้าสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวถวายพระราชโองการอาชญาสิทธิแลพระแสงดาบคืนเสีย แล้วก็กราบทูลแถลงการทั้งปวงซึ่งไปลองศึกนั้นให้ทราบสิ้นทุกประการ แล้วบังคมทูลพระกรุณาขออาสาไปตีเอาเมืองเชียงใหม่ทูลเกล้าฯ ถวาย จึงพระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวตรัศได้ทรงฟังดังนั้น ก็ทรงพระโสมนัศดำรัศสรรเสริญเจ้าพระยาโกษาเปนอันมาก แล้วก็มีพระราชโองการตรัศเหนือเกล้าฯ โปรดให้เจ้าพระยาโกษาธิบดีเปนแม่ทัพหลวง แลให้พระยาวิชิตภักดีเปนยุกรบัตร พระยาสุรินทรภักดีเปนเกียกกาย พระยาสีหราชเดโชเปนกองน่า พระยาสุรสงครามเปนกองหลัง ถือพลช้างม้าพลานิกรเดินเท้าทั้งหลายยกขึ้นไปตีเอาเมืองเชียงใหม่ ครั้นถึงกติกมาศ ศุกรปักขดิถี ได้มหาสวัสดิพิไชยฤกษ์ เจ้าพระยาโกษาธิบดีแลท้าวพระยานายทัพนายกองทั้งหลายก็กราบถวายบังคมลายกกองทัพบกทัพเรือไปจากกรุงเทพมหานครโดยลำดับชลมารคสถลมารค ไปพร้อมทัพณเมืองเถิน แล้วก็ให้ตรวจจัดกองทัพแยกกันออกเปนหมวดเปนกองตามพิไชยสงครามพร้อมเสร็จ ก็ยกพยุหโยธาหาญขึ้นไปโดยวิถีสถลมารคตราบเท่าถึงเมืองนคร แลให้หยุดทัพยับยั้งตั้งค่ายมั่นในที่ใกล้เมืองนั้น.