หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/134

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๗

น่าที่ จึงสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็เสด็จมาหยุดยืนพระคชาธาร มีพระราชโองการตรัศให้ท้าวพระยานายทัพนายกองทั้งหลายขับพลทหารเอาบันไดน้อยใหญ่พาดกำแพงเมืองป่ายปีนขึ้นไป แลให้วางปืนใหญ่รดมเข้าไปตามเชิงเทินเมืองนั้นทุกป้อมพร้อม ๆ กัน ฝ่ายพลลาวชาวเมืองซึ่งรักษาน่าที่เชิงเทินปราการทั้งหลายนั้นก็ต้องปืนใหญ่ล้มตายเปนอันมาก แลต้านทานอยู่มิได้ ก็ถอยลงไปจากน่าที่บ้าง ๆ ก็ต้านทานอยู่ได้บ้างแลตัดเชือกซึ่งผูกไม้ซุงแขวนไว้ตามใบเสมากำแพงนั้นให้ตกลงไปทับข้าศึก บ้างก็หว่านซัดกรวดทรายปูนผงอันร้อนแลรดสาดราดเทน้ำมันเดือดลงไปให้ถูกต้องพลข้าศึกอันป่ายปีนขึ้นมานั้น แลต่อรบป้องกันเมืองอยู่เปนสามารถ ฝ่ายพลทหารไทยก็รับไม้ซุงด้วยปลายหอกปลายทวน แลมากด้วยกันก็ทานไว้ได้ ผ่อนให้ตกลงแต่เบา แลเอาเขนโล่ฝาโพล่ฝาแฟ้มทั้งหลายขึ้นป้องกันรับกรวดทรายปูนผงอันร้อนแลน้ำมันเดือดซึ่งชาวเมืองซัดสาดราดเทลงมานั้นให้ถูกต้องแต่น้อยพออดทนได้ แลพลทหารไทยแสนหนึ่งมิพึงจะท้อถอย เยียดยัดหนุนเนื่องกันเข้าไปดุจคลื่นในท้องพระมหาสมุท ชาวเมืองสุดที่จะต้านทานได้ ก็ขึ้นบนบันไดป่ายปีนกำแพงเข้าไปได้ในเมืองพร้อมกันทุก ๆ น่าที่ แล้วก็ไล่พิฆาฏฆ่าพลลาวชาวเมืองทั้งหลายล้มตายเปนอันมาก แลได้เมืองเชียงใหม่ในเพลารุ่งขึ้นวันนั้น แล้วก็ไล่จับพระยาแสนหลวงเจ้าเมืองแลบุตรภรรยาญาติวงษ์ได้สิ้น แลได้ครัวตัวแสนท้าวพระยาลาวเสนาบดีทั้งหลายแลครอบครัวอพยพชาวเมืองทั้งปวงเปนอันมาก ได้ช้างม้าเครื่องสาตราวุธปืนใหญ่ปืนน้อยแลสิ่งของต่าง ๆ ก็มาก แล้วก็คุมครอบครัว