หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/154

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๑๗

กราบทูลแถลงกิจนานุกิจราชการทั้งปวงซึ่งได้ว่ากล่าวบังคับบัญชานั้นเสร็จสิ้นทุกประการ แล้วบังคมทูลพระกรุณาว่า ถ้าพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตไซ้ ข้าพระพุทธเจ้าจะรักษาราชสมบัติไว้ถวายสมเด็จพระเจ้าลูกเธอกรมพระราชวังหลัง สมเด็จบรมบพิตรพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงฟังพระเพทราชากราบทูลดังนั้น ก็เข้าพระไทยในกิริยาแห่งพระเพทราชาแลหลวงสรศักดิ์อันคิดการเปนขบถนั้น ก็ทรงพระพิโรธ แลทรงจับเอาพระแสงดาบซึ่งวางอยู่ข้างที่ แล้วเสด็จลุกยืนขึ้นได้ด้วยสามารถ พระองค์ทรงพระพิโรธเปนกำลัง มีพระราชโองการตรัศว่า อ้ายสองคนพ่อลูกนี้คิดการเปนขบถ พระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินไปประหารชีวิตรพระเพทราชาแลหลวงสรศักดิ์ ก็มิอาจสามารถจะเสด็จพระราชดำเนินไปได้ ด้วยทรงพระประชวรหนักทุพลภาพอยู่แล้ว ทั้งพระกายก็สั่น จะเสด็จดำรงพระองค์มิได้ ก็ล้มลงในที่นั้น พระแสงดาบทรงนั้นก็ตกจากพระหัดถ์ แล้วมีพระราชดำรัศว่า เทพยเจ้าผู้บำรุงรักษาพระบวรพุทธสาสนา จงไว้ชีวิตรเราอิกสักเจ็ดวัน จะขอดูหน้าอ้ายขบถสองคนพ่อลูกนี้ให้จงได้ ขณะนั้น พระเพทราชาแลหลวงสรศักดิ์ก็กลับลงมาจากพระที่นั่งสุธาสวรรย์แล้วก็เข้าใจว่า สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินจะเสด็จสวรรคตในวันนี้เปนแท้อยู่แล้ว จึงแต่งคนสนิทให้เอาเรือเร็วลงไปยังกรุงเทพพระมหานคร แลให้ทูลอัญเชิญเสด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอไภยทศซึ่งเสด็จอยู่ณพระราชวังบวรสถานภิมุขฝ่ายหลังว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักอยู่แล้ว แลบัดนี้ มีพระราชโองการให้อัญเชิญเสด็จขึ้นไปเฝ้าณเมืองลพบุรีเปนการเร็ว ผู้รับสั่งก็เอาเรือเร็วรีบลงไปยังกรุงเทพพระมหานครในวันนั้น.