หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/160

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๒๓

พระบาทรายเรียงเปนขนัดโดยขบวนแห่น่าหลังคั่งคับท้องแถวนทีธาร แลให้ขยายพยุหบาตราคลาเคลื่อนจากเมืองลพบุรีล่องลงมายังพระมหานครศรีอยุทธยา ถึงประทับเรือพระที่นั่งณฉนวนประจำท่าพระราชวังหลวง ก็เสด็จขึ้นสู่พระราชวัง ทรงพระกรุณาสั่งให้อัญเชิญพระบรมโกษฐขึ้นประดิษฐานไว้ณพระที่นั่งสุริยามรินทร์มหาปราสาท แล้วดำรัศให้เจ้าพนักงานกะเกณฑ์ทำพระเมรุมาศแลการในพระราชวังในพระนครทั้งปวง แล้วมีพระราชโองการตรัศสั่งพระมหาราชครูปโรหิตาจารย์ให้จัดแจงการพระราชพิธีปราบดาภิเศกณกรุงเทพพระนครอิกครั้งหนึ่งเล่าให้เปนสองครั้ง.

ครั้นถึงวันพฤหัสบดี เดือนสิบ ขึ้นเจ็ดค่ำ ปีจอ จัตวาศก เพลาเช้าแล้วสี่นาฬิกาสี่บาท ได้มหามงคลสวัสดีอุดมฤกษ์ พร้อมด้วยท้าวพระยาสามนตราชเสนาบดีมนตรีมุขลูกขุนข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งหลายประชุมกันณพระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท กระทำพระราชพิธีปราบดาภิเศกอัญเชิญสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นผ่านพิภพสวรรยาธิปัตยถวัลยราชณกรุงเทพพระมหานครศรีอยุทธยาโดยโบราณราชประเพณี แลการพระราชพิธีปราบดาภิเศกทั้งปวงนั้นเหมือนครั้งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปราสาททอง แล้วถวายพระนามว่า สมเด็จพระมหาบุรุษวิสุทธิเดชอุดมบรมจักรพรรดิเจ้าพิภพกรุงเทพพระมหานครบวรทวาราวดีศรีอยุทธยามหาดิลกภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์อุดมราชนิเวศมหาสถาน ขณะเมื่อเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัตินั้น พระชนม์ได้ห้าสิบหกพระพรรษา จึงมีพระราชดำรัศให้มีการมหรศพสมโภชพระนครสามวันแล้ว ๆ ทรงพระกรุณาให้ตกแต่งสถลมารควิถีรอบพระนคร