หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/176

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๓๙

ในกลางคืน หาได้ตัวไม่ กองทัพได้เมืองนครราชสิมาแล้ว ก็แต่งหนังสือบอกลงมาถึงสมุหนายกให้กราบทูลพระกรุณาให้ทราบ พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ตรัศทราบประพฤดิเหตุนั้นแล้ว ก็ดำรัศให้มีตราตอบขึ้นไปยังกองทัพว่า ให้จัดแจงตั้งแต่งผู้รั้งกรมการอยู่รักษาเมืองให้ราบคาบเปนปรกติ แล้วให้เลิกทัพกลับมายังพระมหานครเถิด ครั้นท้าวพระยานายทัพนายกองทั้งหลายได้แจ้งในท้องตราดังนั้นแล้ว ก็ทำตามพระราชกำหนดขึ้นไปนั้นทุกประการ ครั้นเสร็จแล้ว ก็เลิกทัพกลับลงมายังกรุงเทพมหานคร แลขึ้นเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว กราบทูลแถลงโดยอันได้คิดอ่านทำการปล้นเอาเมืองนั้นให้ทราบสิ้นทุกประการ สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินก็พระราชทานรางวัลแก่ท้าวพระยานายทัพนายกองทั้งปวงเปนอันมากโดยลำดับถานานุศักดิ์.

ลุศักราช ๑๐๔๗ ปีฉลู สัปตศก ขณะนั้น สมเด็จพระอรรคมเหษีฝ่ายขวากรมหลวงโยธาทิพทรงพระครรภ์กำหนดถ้วนทศมาศ ก็ประสูตรพระราชโอรสกอปรด้วยศิริรูปเปนอันดี พระราชวงศานุวงษ์ทั้งหลายถวายพระนามชื่อ เจ้าพระขวัญ แลเมื่อวันประสูตรเพลากลางคืนนั้นแผ่นดินไหวเปนอัศจรรย์ ครั้นทรงวัฒนาขึ้นมา คนทั้งหลายนับถือมาก ด้วยเปนพระราชนัดดาของสมเด็จพระนารายน์เปนเจ้า เปนวงษ์กระษัตริย์อันประเสริฐ แลคนทั้งหลายเข้าสวามิภักดิ์เปนข้าใต้ฝ่าพระบาทเปนอันมาก แต่ปีกุญ เบญจศกแล้วนั้น สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพระราชดำริห์ว่า ที่บ้านหลวงตำบลป่าตองนั้นเปนที่มงคลศิริราชฐานอันประเสริฐ สมควรจะสร้างเปนพระอารามมีพระอุโบสถวิหารการเปรียญพระเจดียฐานกำแพงแก้วแลกุฎีสงฆ์ศาลาสพานเว็จกุฎี