หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/177

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๔๐

พร้อม แล้วทรงพระกรุณาให้หมื่นจันทราช่างเคลือบทำกระเบื้องเคลือบสีเหลืองมุงพระอุโบสถวิหารทั้งปวง แลการสร้างพระอารามนั้นสามปีจึงสำเร็จในปีขาล อัฐศก แล้วพระราชทานนามบัญญัติพระอารามชื่อ วัดพระบรมพุทธาราม ตั้งเจ้าอธิการชื่อ พระญาณสมโพธิ ราชาคณะคามวาสี ครองพระอาราม แลทรงพระกรุณาให้มีการฉลองแลมีการมหรศพสามวัน แลทรงถวายไทยทานแก่พระสงฆ์เปนอันมาก แลพระราชทานเลกข้าพระไว้อุปถากพระอารามก็มาก แล้วถวายพระกัลปนาขึ้นแก่พระอารามตามธรรมเนียม.

ในศักราช ๑๐๔๘ ปีขาล อัฐศกนั้น กรมการเมืองไชยาบอกข้อราชการเข้ามาถึงกรมพระกระลาโหม ในลักษณนั้นว่า เจ้าพระยานครศรีธรรมราชเปนขบถ แขงเมือง แลซ่องสุมผู้คนเครื่องสาตราวุธเปนอันมาก จะยกเข้ามาตีหัวเมืองฝ่ายตวันตกทั้งปวง ได้หัวเมืองทั้งปวงแล้วจะยกเข้าไปทำร้ายกรุง อนึ่ง นายสังข์ยมราชเจ้าเมืองนครราชสิมาซึ่งหนีไปได้นั้น พาสมัคพรรคพวกออกไปตั้งอยู่ณพรมแดนเมืองนครศรีธรรมราชแลแขวงไชยาต่อกัน แลคิดการขบถเข้าด้วยเจ้าพระนครศรีธรรมราชอิก ตั้งซ่องสุมชาวนอกทั้งปวง แลผู้คนเข้าเกลี้ยกล่อมนายสังข์ยมราชนั้นก็มากก จึงเจ้าพระยาโกษาธิบดีนำเอาข้อราชการนั้นขึ้นกราบทูลพระกรุณาให้ทราบ พระบาทบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ตรัศทราบเหตุดังนั้น ก็ทรงพระพิโรธ ดำรัศว่า อ้ายสองคนนี้องอาจนัก จะไว้มันมิได้ ควรจะแต่งทัพใหญ่ยกไปทั้งทางบกทางเรือปราบปรามมันเสียจึงจะชอบ อันอ้ายขบถสองคนนี้มันไม่พ้นเงื้อมมือเรา แม้นได้ตัวแล้ว จะสับมิให้กากลืนแค้น