หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/181

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๔๔

ซูบผอมแลบริบูรณ์อยู่สิ้น กำลังศึกแขงมืออยู่ ฝ่ายในเมืองสิ้นเสบียงอาหาร ผู้คนอดอยากซูบผอมล้มตายมาก กำลังศึกก็ถอยลง แลมิอาจจะยกออกมาต่อตีนอกเมืองได้ ก็รักษาแต่มั่นไว้ แลกองทัพกรุงเห็นชาวเมืองกำลังศึกถอยลง ก็แต่งพลอาสา ๒๐๐๐ ยกเข้าถอนขวากหนามข้ามคูเข้าไปเอาบันไดพาดป่ายปีนปล้นเอาเมือง แลพระยารามเดโชเจ้าเมืองมายืนให้พลทหารรบพุ่งป้องกันเปนสามารถ แลพุ่งสาตราวุธแหลนหลาวยิงปืนใหญ่จ่ารงค์มณฑกนกสับระดมออกไปดังห่าฝน ต้องพลอาสาทัพกรุงล้มตายบาดเจ็บมาก แลจะปล้นเอามิได้ ก็พ่ายออกไป จึงแม่ทัพใหญ่ให้ทำทุบทูบังตัวกันอาวุธยกเข้ามาปล้นอิกเล่า แลขุดอุโมงค์รุ้งเข้ามาใกล้เชิงกำแพงเมือง ชาวเมืองพุ่งสาตราวุธมิได้ถูกต้อง จึงพระยารามเดโชเจ้าเมืองก็แต่งพลทหารออกทลวงฟันข้าศึกซึ่งขุดอุโมงค์เข้ามานั้น แลได้ต่อยุทธนาถึงอาวุธสั้นประจันจู่โจมฟันพลอาสาทัพกรุงล้มตายมาก เห็นจะทำการมิได้ก็กลับไป แลบรรดาขุนนางกรมการทั้งหลายในเมืองนครเอาใจลงด้วยพระยารามเดโชเปนขบถแขงเมืองสิ้นทั้งนั้น ช่วยกันตรวจตรารักษาน่าที่เชิงเทินป้องกันเมืองเปนกวดขัน มิได้คิดอ่านเอาใจออกหากแลประนีประนอมกันอยู่สิ้น จึงพระยารามเดโชก็ปฤกษาด้วยขุนนางกรมการทั้งปวงว่า ซึ่งทัพกรุงยกออกมาตีเมืองเราบัดนี้ ได้ยกเข้ามาปล้นหลายครั้ง ทำมิได้ ก็ระอามือเราอยู่ แลศึกเราได้ที จะไว้ช้ามิได้ ควรจะยกออกไปตีให้แตกฉานพ่ายไปเสียจึงจะชอบ แลขุนนางกรมการทั้งปวงก็เห็นด้วย จึงให้จัดแจงพลทหารที่มีฝีมือเข้มแขงประมาณ ๓๐๐๐ ล้วนถืออาวุธสั้น แลพระยารามเดโชก็ยก