หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/185

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๔๘

ปีกกาค่ายล้อมด้านริมแม่น้ำที่พระยาราชบังสรร แลพลอาสาจามซึ่งรักษาค่ายล้อมทั้งหลายนั้นก็ระดมปืนไฟใหญ่น้อยยิงแย้งออกมาเปนโกลาหล แลพระยารามเดโชกับพลทั้งหลายเปนคนดีมีวิชา อาวุธมิได้ถูกต้อง แลมิได้ย่นย่อท้อถอย ก็แหกหักค่ายปีกกาพังลงได้ ก็ไล่ทลวงจ้วงฟอนฟันพลอาสาจามทั้งหลายล้มตายแลลำบากเปนอันมาก พลค่ายล้อมทั้งหลายทานฝีมือมิได้ก็แยกออกให้ พระยารามเดโชกับพลทหารทั้งหลายก็ไล่ฟาดฟันฝ่าพลทัพกรุงแหวกเปนช่องออกได้ มิได้มีผู้ใดต้านทาน ก็พาพลทหารกรูกันลงได้ในเรือรบซึ่งพระยาราชบังสรรจัดแจงจอดไว้รับณน่าท่านั้น แล้วออกเรือไปถึงชเล ชักใบแล่นออกไปยังมหาสมุท แล่นหนีไปยังเมืองแขก ทัพกรุงก็เข้าเมืองได้ ไล่จับผู้คนเก็บสิ่งของทั้งปวง แลนายทัพนายกองทั้งหลายแจ้งว่า ตัวขบถแหกหักออกไปได้น่าที่พระยาราชบังสรร แล้วได้เรือรบแล่นหนีไป แลพระยาราชบังสรรมิได้จัดแจงทัพเรือไปติดตามให้ทันที ละให้ตัวขบถหนีไปพ้น เห็นผิดอยู่ จึงเอาคดีนี้ไปแจ้งแก่พระยาสุรสงครามแม่ทัพหลวง ๆ ได้แจ้งดังนั้นก็พิจารณาสืบสาวไต่สวนไล่เลียง แลการนั้นมิมิด ก็ได้เนื้อความว่า พระยารามเดโชเจ้าเมืองนครสอดหนังสือลับออกไปถึงพระยาราชบังสรร ๆ รู้กันกับผู้คิดมิชอบ จัดแจงเรือรบไว้ให้ นัดหมายให้ออกมา แสร้งส่งตัวขบถให้หนีไปพ้น ครั้นไล่เลียงเปนสัตย์แท้แล้ว ก็ให้จำพระยาราชบังสรรเข้าห้าประการ แล้วบอกหนังสือเข้าไปณกรุงเทพมหานคร สมุหพระกระลาโหมกราบทูลพระกรุณาโดยเหตุทั้งปวงให้ทราบสิ้นทุกประการ พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ตรัศทราบประพฤดิเหตุดังนั้น ก็ทรงพระ