หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/186

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๔๙

พิโรธแก่พระยาราชบังสรรยิ่งนัก ดำรัศว่า มันเปนพวกอ้ายขบถ แล้วให้มีตราตอบออกไปยังกองทัพว่า ให้สืบสาวเอาพวกรู้เห็นทั้งปวงได้แล้ว ก็ให้เอาตัวพระราชบังสรรแลพรรคพวกรู้เห็นทั้งหลายตระเวนสามวัน แล้วให้ประหารชีวิตรแลตัดศีศะเสียบไว้ประตูเมืองนครศรีธรรมราช อย่าให้ผู้อื่นดูเยี่ยงอย่างสืบไปภายน่า แล้วให้จัดแจงตั้งแต่งนายทัพนายกองผู้ใดซึ่งมีฝีมือเข้มแขงมีความชอบมากให้อยู่ครองเมืองแลจัดแจงบ้านเมืองอาณาประชาราษฎรทั้งหลายให้ราบคาบเปนปรกติดี แล้วก็ให้เลิกทัพกลับมายังกรุงเทพมหานครเถิด ครั้นท้าวพระยานายทัพนายกองทั้งหลายได้แจ้งในท้องตราดังนั้นแล้ว ก็กระทำดุจพระราชกำหนดออกไปนั้นทุกประการ แล้วตั้งแต่งผู้รั้งกรมการอยู่รักษาเมือง แลไว้อาณาประชาราษฎรช้างม้าเครื่องสาตราวุธสิ่งของทั้งหลายสำหรับเมืองพอสมควร แล้วเลิกกองทัพบกกองทัพเรือ กวาดคนเชลยช้างม้าเครื่องสรรพาวุธสิ่งของทั้งหลายกลับเข้ามายังกรุงเทพมหานคร แล้วขึ้นเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวกราบทูลโดยเหตุทั้งปวง แล้วถวายช้างม้าคนเชลยแลสิ่งของทั้งหลายซึ่งตีได้นั้นเปนอันมากโดยสมควรแก่ความชอบนั้น.

ลุศักราช ๑๐๔๙ ปีเถาะ นพศก สมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัศให้ช่างพนักงานจัดการสร้างพระมหาปราสาทองค์หนึ่งในพระราชวังข้างใน ครั้นเสร็จแล้ว พระราชทานนามบัญญัติมหาปราสาทชื่อ พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ เปนสี่ปราสาทด้วยกันทั้งเก่าสาม คือ พระที่นั่งวิหารสมเด็จ องค์หนึ่ง พระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท องค์หนึ่ง พระที่นั่งสุริยามรินทร์ องค์หนึ่ง แล้วให้ขุดสระเปนคู่อยู่ซ้ายขวาพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ แล้วให้ก่ออ่างแก้วแล