หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/189

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๕๒

อนุญาตแล้วก็เสด็จกลับยังพระราชวัง มีพระราชดำรัศสั่งอรรคมหาเสนาบดีให้กะเกณฑ์กันไปสร้างวัดพระยาแมน แลการสร้างพระอารามนั้นสองปีเศษจึงสำเร็จในปีมแม ตรีนิศก แล้วทรงพระกรุณาให้มีการฉลองแลมีการมหรศพสมโภชต่าง ๆ แลมีโจนร่มด้วย คำรบสามวันแล้ว ทรงถวายไทยทานแก่พระสงฆ์เปนอันมาก แลไว้ข้าพระสำหรับอุปฐากพระอารามนั้นก็มาก แลถวายพระกัลปนาขึ้นพระอารามตามธรรมเนียม แล้วทรงพระกรุณาตั้งพระอาจารย์อธิการวัดพระยาแมนชื่อ พระศรีสัจญาณมุนี ราชาคณะคามวาสี ถวายเครื่องสมณบริกขารพร้อมตามศักดิ์พระราชาคณะทุกประการ.

ในศักราช ๑๐๕๓ ปีมแม ตรีนิศกนั้น ณวัน ค่ำ นักเสด็จเฒ่าซึ่งครองกรุงกัมพุชประเทศให้ทูตานุทูตถือศุภอักษรเข้ามาถึงอรรคมหาเสนาธิบดีณกรุงเทพมหานครศรีอยุทธยา ในลักษณนั้นว่า กองช้างณกรุงกัมพูชาธิบดีไปโพนช้าง คล้องต้องนางช้างเผือกสูงสามศอกคืบมีนิ้ว สรรพด้วยคชลักษณงามบริบูรณ์ แลพระเจ้ากรุงศิริยโสธรนครอินทปรัตกุรุรัฐราชธานีขอถวายนางศรีเสวตรคเชนทรชาติฉันทันต์ตัวประเสริฐมาเปนพระบรมอรรคราชพาหนแห่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้ากรุงเทพมหานครบวรทวาราวดีศรีอยุทธยา ขอเอาพระราชกฤษฎาเดชานุภาพสมเด็จพระนั่งเกล้าเปนที่พึ่งพำนักสืบไป แลจะขอพระราชทานเชิญข้าหลวงกรมช้างออกไปรับเข้ามา จึงสมุหนายกนำเอาลักษณอักษรพระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดีนั้นขึ้นกราบทูลพระกรุณาให้ทราบสิ้นทุกประการ สมเด็จพระบาทบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวตรัศทราบเหตุดังนั้นก็ทรงพระโสมนัศ ดำรัศให้พระราชทานเสื้อผ้าแก่ทูตานุทูตคนละสำรับ แล้ว