หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/191

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๕๔

แล้วพระราชทานเสื้อผ้ารางวัลแก่พระยาพระเขมรทั้งสามนั้นโดยสมควร แลพระราชทานเครื่องราชบริโภคอุปโภคต่าง ๆ ตอบแทนออกไปแก่พระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดีนั้นเปนอันมาก แลพระยาพระเขมรสามนายก็กราบถวายบังคมลากลับออกไปยังกรุงกัมพูชาธิบดี.

ลุศักราช ๑๐๕๔ ปีวอก จัตวาศก ขณะนั้น เกิดขบถลาวคนหนึ่งชื่อ บุญกว้าง อยู่ณแขวงหัวเมืองลาวตวันออก มีความรู้วิชาการดี แลมีสมัคพรรคพวก ๒๘ คน คิดอ่านทำการขบถ ตั้งตัวว่าเปนผู้มีบุญ แลพาพรรคพวกเข้ามาอยู่ณศาลาแห่งหนึ่งนอกประตูเมืองนครราชสิมา แลกั้นม่านอยู่มิดชิด แล้วให้คนเข้าไปหาตัวพระยานครราชสิมาแลกรมการทั้งปวงออกมา จึงพระยานครราชสิมาก็ขี่ช้างพังตัวหนึ่ง มีบ่าวไพร่ทนายตามอกมา ๒๐ เศษ ครั้นออกมานอกเมืองเกือบจะถึงศาลา แลบุญกว้างขบถก็ลุกออกมายืนอยู่นอกม่าน แล้วชี้นิ้วตวาดด้วยเสียงเปนอันดัง ด้วยอำนาจคุณวิชาบันดาลให้พระยานครราชสิมาสดุ้งตกใจกลัวยิ่งนัก แล้วขับช้างหันหวนแล่นหนีเข้าประตูเมืองทั้งบ่าวไพร่ด้วยกัน แลอ้ายคิดมิชอบกับสมัคพรรคพวกไล่ตามเข้าในเมือง ไพร่พลเมืองแลกรมการทั้งหลายก็เกรงกลัวมันด้วยอานุภาพคุณวิชาการ มิได้มีผู้ใดจะอาจหาญเข้าจับกุมมันได้ ต้องอยู่ในอำนาจอ้ายขบถสิ้น แลขบถบุญกว้างกับสมัคพรรคพวกก็เข้าตั้งอยู่ในศาลากลาง สั่งให้บำรุงช้างม้ารี้พลให้พร้อมไว้ จึงพระยานครราชสิมาแลกรมการทั้งหลายปฤกษากันว่า ซึ่งอ้ายขบถเกิดขึ้นในเมืองเรา แต่กำลังเราทั้งปวงนี้จะเข้าจับกุมมันไม่ได้ ด้วยมันเปนคนดีมีวิชาการอยู่ ครั้นจะนิ่งเสียเล่า ก็เหมือนหนึ่งเปนพรรคพวกเข้าด้วยอ้ายขบถ จะพากันตายเสียสิ้น จำจะ