หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/201

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๖๔

ที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท แลให้ตั้งโรงพระกระยาสนานแลพระเบญจาณท้องสนามชั้นใน แลให้ตั้งราชวัตรฉัตรเบญจรงค์ธงไชยธงประฎากวางเปนระยะไป โดยทางอันจะแห่นั้นก็วางกระลาบาตเปนชั้น ๆ ครั้นถึงมิคสิรมาศ ศุกรปักขดิถีณวันอันได้มหามงคลฤกษ์ เพลาชายแล้วสามนาฬิกา จึงพระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าหลวงก็ทรงเครื่องศิริราชอลังการ์สรรพาภรณ์ภูษาลายทอง สนับเพลาเชิงงอน สอดทรงฉลองพระองค์อย่างเทศ ทรงเจียรบาดรัตพัตร แล้วทรงมหากฐินน้อย ทรงเหน็บพระแสงกั้นหยั่น แลมหาดเล็กเชิญพระแสงดาบใจเพ็ชร แล้วเสด็จพระราชดำเนินมาขึ้นเกย ทรงพระราชยาน เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์ มหาดเล็กแห่ซ้ายขวาน่าหลังเปนขบวน มาถึงพระที่นั่งพระสรรเพชญ์ปราสาท เสด็จขึ้นประทับอยู่ณพระที่นั่งเก้าอี้ณชานพัก ฝ่ายสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทรงเครื่องแล้วเสด็จขึ้นพระยานุมาศ เจ้าจอมเฒ่าแก่เปนเพื่อนคนหนึ่ง แลมหาดเล็กคู่แห่นั้นนุ่งห่มสมปักท้องขาวชายกรวย ใส่เสื้อครุยลำพอกเกี้ยวพันผ้าขาว แห่น่า ๒๐ คู่ ถัดนั้นจัดเอาบุตรขุนนางที่ไว้ศีศะจุกนั้นให้นุ่งผ้าลายพื้นขาว ใส่เสื้อครุยขาว ๒๐ คู่ แห่กระบวนน่า แล้วถึงนางเชิญพระแซ่อยู่น่าพระยานุมาศ แลกระบวนหลังนั้นมีนางเชิญเครื่องหกคน นางถือพัชนีคนหนึ่ง ถัดนั้นจัดเอาภรรยาขุนนางเดินพนมมือตามนางเชิญเครื่องเปน ๔ แถว ๆ ละ ๒๐ คน เปน ๘๐ คน ล้วนนุ่งผ้าท้องขาวชายกรวย ห่มผ้าขาวขลิบทองสิ้น ครั้นแห่เสด็จมาถึงที่ประทับชานพักแล้ว จึงให้ทรงเหยียบน่าฆ้องไชย มีนางพนักงานเอาน้ำชำระพระบาทสองคน แล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับพระกรสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จเข้าในพระมหาปราสาท ทรงฟังสวด