หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/217

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๘๐

กระษัตราธิราชเจ้าอันกอปรด้วยบุญญาภิสังขารบารมีมาก แลกำลังบุญวาศนานั้นข่มขี่กันอยู่ ครั้นสู้กันไปได้ประมาณกึ่งยก ก็หย่อนกำลังลง แลเสียทีเพลี่ยงพล้ำถูกที่สำคัญถนัดเจ็บป่วยถึงสาหัศเปนหลายนัด ก็แพ้ด้วยบุญญานุภาพในยกนั้น จึงนายสนามก็ตกรางวัลให้แก่ผู้ชะนะนั้นบาท ๑ ให้ผู้แพ้นั้นสองสลึงตามวิไสยบ้านนอก แลเหล่าข้าหลวงนั้นรับเอาเงินรางวัล จึงดำรัศให้ข้าหลวงว่าแก่นายสนามให้จัดหาคู่มาเปรียบอิก แลนายสนามก็จัดหาคู่มาได้อิกแล้วให้ชกกัน แลคนมวยผู้นั้นธารบุญมิได้ ก็แพ้ในกึ่งยก คนทั้งหลายสรรเสริญฝีพระหัดถ์มี่ไปแล้วว่า มวยกรุงคนนี้มีฝีมือยิ่งนัก แลนายสนามก็ตกรางวัลเหมือนหนหลังนั้น แล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็พาข้าหลวงคืนมาสู่เรือพระที่นั่ง ค่อยสำราญพระราชหฤไทย แล้วเสด็จกลับยังกรุงเทพมหานคร.

ในปีมเมีย จัตวาศกนั้น สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวที่นั่งสุริยามรินทรมีพระราชหฤไทยปราถนาจะใคร่เสด็จไปประพาศล้อมช้างเถื่อนในป่า จึงมีพระราชดำรัศสั่งสมุหนายกให้ตรวจเตรียมช้างม้ารี้พลแลนาวาพยุหทั้งปวงให้พร้อมไว้ ครั้นถึงวันอันกำหนด จึงเสด็จลงสู่เรือพระที่นั่ง พรั่งพร้อมด้วยเรือพระบรมโอรสาธิราชเจ้า แลเรือท้าวพระยาเสนาบดีพิริยโยธาพลากรทวยหาญทั้งหลาย แวดล้อมโดยเสด็จพระราชดำเนินเปนอันมาก จึงให้เคลื่อนขยายขบวนนาวาพยุหไปโดยลำดับชลมารค ครั้นถึงท่าเรือแขวงเมืองนครสวรรค์ จึงเสด็จขึ้นตั้งตำหนักประทับพลับพลาอยู่ตำบลบ้านหูกวาง แล้วทรงพระกรุณาให้ตั้งค่ายปีกกาล้อมฝูงช้างเถื่อนณป่ายางกองทอง แลให้ทำค่ายมั่นสำหรับจะกันช้าง