หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/223

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๘๖

สมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน พาเอาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์มาลงเรือพระที่นั่ง แล้วเสด็จกลับลงมายังกรุงเทพมหานคร.

ส่วนสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินก็เสด็จด้วยช้างพระที่นั่งแลช้างดั้งช้างกันไปทอดพระเนตรให้กันช้างเถื่อนเข้าค่ายมั่น แลจับช้างเถื่อนได้ครั้งนั้นมากประมาณร้อยเศษ แล้วเสด็จกลับยังพระมหานครศรีอยุทธยา ฝ่ายสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ก็เสด็จมาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทตามเคยมาแต่ก่อน แลสมเด็จพระราชบิดาก็สิ้นความพิโรธ ทรงพระกรุณาดำรัศสั่งกิจราชการงานพระนครดีเปนปรกติไปเหมือนแต่ก่อนนั้น.

ในขณะนั้น เจ้าพระบำเรอภูธรราชนิกุลองค์หนึ่งเปนเชื้อพระวงษ์มาแต่ก่อน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระกรุณาแก่เจ้าพระบำเรอภูธรเปนอันมากว่ามีน้ำใจซื่อต่อแผ่นดิน แลทรงพระกรุณาดำรัศให้ว่าราชการทั้งปวงต่างพระเนตรพระกรรณ แลเจ้าพระบำเรอภูธรนั้นมีบุตรี ๔ องค์ ชื่อ พระองค์รัตนา องค์หนึ่ง พระองค์เอี้ยง องค์หนึ่ง พระองค์ขาว องค์หนึ่ง พระองค์พลับ องค์หนึ่ง แลพระองค์รัตนานั้นทรงพระกรุณาเอาเข้ามาเลี้ยงเปนพระสนมเอก แลพระองค์เอี้ยงนั้นทรงพระกรุณาพระราชทานให้แก่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอกรมพระราชวังบวร แลพระองค์ขาวนั้นก็พระราชทานให้แก่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระบัณฑูรน้อย แต่พระองค์พลับน้องน้อยนั้นยังเยาว์อยู่ ยังมิได้โสกันต์ แลพระองค์รัตนาซึ่งเปนพระสนมเอกนั้น สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินก็ทรงพระเสน่หาการุญภาพโปรดปรานเปนอันมาก ครั้นอยู่มา พระองค์รัตนาก็มิได้ตั้งอยู่ในกตัญญูกตเวทีต่อสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินโดยสุจริตธรรม ก็คิดการเปนประทุษฐจิตร แลให้หาหมอทำเสน่ห์