หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/225

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๘๘

ราชวังข้างท้ายพระสนมนั้นเนือง ๆ แลประตูนั้นก็เรียกว่า ประตูผีออก มีมาตราบเท่าทุกวันนี้.

อยู่มาครั้งหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จด้วยพระชลพาหนะออกไปประพาศณเมืองเพ็ชรบุรี แลเสด็จไปประทับแรมอยู่ณพระราชนิเวศตำบลตระโหนดหลวงใกล้ฝั่งพระมหาสมุท แลที่พระตำหนักนี้เปนที่พระตำหนักเคยประพาศมหาสมุทมาแต่ก่อนครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรบรมราชาธิราชบพิตรเปนเจ้านั้น แลสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินก็เสด็จด้วยพระที่นั่งมหานาวาท้ายรถแล่นใบประพาศไปในท้องพระมหาสมุทตราบเท่าถึงตำบลเขาสามร้อยยอด แลทรงเบ็ดตกปลาฉลามแลปลาอื่นเปนอันมาก แล้วเสด็จกลับมาณพระตำหนักตระโหนดหลวง แลเสด็จเที่ยวประพาศอยู่ดังนั้นประมาณ ๑๕ เวน จึงเสด็จกลับยังกรุงเทพมหานคร.

ลุศักราชได้ ๑๐๖๖ ปีวอก ฉศก ขณะนั้น สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินเสด็จด้วยเรือพระที่นั่งเอกไชย จะไปประพาศทรงเบ็ดณปากน้ำเมืองสาครบุรี ครั้นเรือพระที่นั่งไปถึงตำบลโคกขาม แลคลองที่นั้นคดเคี้ยวนัก แลพันท้ายนรสิงหซึ่งถือท้ายเรือพระที่นั่งคัดแก้ไขมิทันที แลศีศะเรือพระที่นั่งนั้นโดนกระทบกิ่งไม้อันใหญ่เข้า ก็หักตกลงในน้ำ พันท้ายนรสิงหเห็นดังนั้นก็ตกใจ จึงโดดขึ้นเสียจากเรือพระที่นั่ง แลขึ้นอยู่บนฝั่ง แล้วร้องกราบทูลพระกรุณาว่า ขอเดชะฝ่าลอองธุลีพระบาทปกเกล้าฯ พระราชอาชญาเปนล้นเกล้าฯ ขอจงทรงพระกรุณาโปรดให้ทำศาลขึ้นที่นี้สูงประมาณเพียงตา แล้วจงตัดเอาศีศะข้าพระพุทธเจ้ากับศีศะเรือพระที่นั่งซึ่งหักตกน้ำลงไปนั้นขึ้นบวงสรวงไว้ด้วยกันที่นี้ตาม