หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/226

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๘๙

พระราชกำหนดในบทพระไอยการเถิด จึงมีพระราชโองการตรัศว่า อ้ายพันท้าย ซึ่งโทษเองนั้นถึงตายก็ชอบอยู่แล้ว แต่ทว่า บัดนี้ กูจะยกโทษเสีย ไม่เอาโทษเองแล้ว เองจงคืนมาลงเรือไปด้วยกูเถิด ซึ่งศีศะเรือที่หักนั้น กูจะทำต่อเอาใหม่แล้ว เองอย่าวิตกเลย พันท้ายนรสิงหจึงกราบทูลว่า ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดมิให้เอาโทษข้าพระพุทธเจ้านั้น พระเดชพระคุณหาที่สุดมิได้ แต่ทว่า จะเสียขนบธรรมเนียมในพระราชกำหนดกฎหมายไป แลซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมาละพระราชกำหนดสำหรับแผ่นดินเสียดังนี้ดูมิควรยิ่งนัก นานไปภายน่าเห็นว่า คนทั้งปวงจะล่วงครหาติเตียนดูหมิ่นได้ แลพระเจ้าอยู่หัวอย่าทรงพระอาไลยแก่ข้าพระพุทธเจ้าผู้ถึงแก่มรณโทษนี้เลย จงทรงพระอาไลยถึงพระราชประเวณีอย่าให้เสียขนบธรรมเนียมไปนั้นดีกว่า อันพระราชกำหนดมีมาแต่โบราณนั้นว่า ถ้าแลพันท้ายผู้ใดถือท้ายเรือพระที่นั่งให้ศีศะเรือพระที่นั่งนั้นหัก ท่านว่า พันท้ายนั้นถึงมรณโทษ ให้ตัดศีศะเสีย แลพระเจ้าอยู่หัวจงทรงพระกรุณาโปรดให้ตัดศีศะข้าพระพุทธเจ้าเสียตามโบราณราชกำหนดนั้นเถิด จึงมีพระราชดำรัศสั่งให้ฝีพายทั้งปวงปั้นมูลดินเปนรูปพันท้ายนรสิงหขึ้น แล้วก็ให้ตัดศีศะรูปดินนั้นเสีย แล้วดำรัศว่า อ้ายพันท้าย ซึ่งโทษเองถึงตายนั้น กูก็ประหารชีวิตรเองเสียพอเปนเหตุแทนตัวแล้ว เองอย่าตายเลย จงกลับมาลงเรือไปด้วยกูเถิด พันท้ายนรสิงหเห็นดังนั้นก็มีความลอายนัก ด้วยกลัวว่าจะเสียพระราชกำหนดโดยขนบธรรมเนียมโบราณไป เกรงคนทั้งปวงจะครหาติเตียนดูหมิ่นในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งตนได้ สู้เสียสละชีวิตรของตัวมิได้อาไลย จึงกราบทูลไปว่า ขอพระราชทาน ซึ่งทรงพระ