หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/231

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๙๔

ครั้นค่ำให้จุดดอกไม้เพลิงต่าง ๆ รทาใหญ่ ๘ รทา บูชาพระพุทธบาทเปนมโหฬารยิ่งนัก แล้วทรงพระกรุณาให้ถอยเรือพระที่นั่งแลเรือแห่ทั้งปวงกลับลงไปณกรุง แล้วถวายนมัสการลา ยกพยุหโยธาคชานิกรทวยหาญผ่านไปโดยทิศตระวันออก ข้ามแม่น้ำแควป่าสักไปณเขาปัถวี เสด็จขึ้นถวายนมัสการพระพุทธฉายา แล้วประทับอยู่ที่นั้นสามเวน จึงเสด็จยกพลนิกายบ่ายน่าไปโดยบุรพทิศ แลเสด็จประพาศไปถึงตำบลเขาพนมโยง จึงเสด็จขึ้นนมัสการพระเจดียฐานบนยอดเขานั้น แลเสด็จประทับอยู่ที่นั้นอิกสามเวน จึงเสด็จยกพลแสนยากรร้อนแรมประพาศไปในวนาประเทศทั้งปวงสิ้นสองสามเวน มีพระราชหฤไทยปราถนาจะไปประพาศล้อมช้างเถื่อนในป่า ก็พอทรงพระประชวรลง จึงเสด็จยกพยุหโยธาทัพกลับเข้าพระนคร แลพระโรคนั้นก็ยิ่งกำเริบมากขึ้น ทรงพระประชวรหนักลง แลบรรดาข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวงก็เข้าไปนอนประจำซอง[1] ในพระราชวังทั้งสิ้น.

ฝ่ายพระราชสงครามแลนายหมวดนายกองเจ้าน่าที่ทั้งหลายซึ่งคุมพลทำการขุดคลองนั้น แลขุดได้ครึ่งหนึ่ง ยังมิได้สำเร็จ ครั้นแจ้งไปว่าทรงพระ[2] ประชวรหนัก ก็เลิกการนั้นเสีย ชวนกันกลับเข้ามาพระนคร แลการนั้นยังค้างอยู่ ส่วนสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินก็ทรงพระประชวรอยู่ณพระที่นั่งสุริยามรินทร พระโรคนั้นหนักเปนอาสันทิวงคตอยู่แล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดมอบเวนราชสมบัติให้แก่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอกรมพระราชวังบวรสถานมงคล แล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

  1. เดิมไม่มี