หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/249

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๑๒

กระทำกาลกิริยา ผู้ใดมีเมตตา ไม่ฆ่าสัตว อายุยืน ไม่มีเมตตา ฆ่าสัตว อายุสั้น.

แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๓ (พระบรมโกษฐ)

กระษัตริย์ทั้งสองพระองค์ให้ทหารรบสู้กันหลายวันหลายเพลาแล้ว วันหนึ่งจึงเจ้าฟ้าอไภยให้หลวงไชยบูรณ์ปลัดเมืองพระพิศณุโลกคุมพลทหารร้อยเศษพร้อมด้วยเครื่องสรรพาวุธต่าง ๆ ให้ยกทัพไปทางชีกุนอ้อมโอบไปให้ตีวังน่า จัดแจงแล้วส่งไป ฝ่ายพลทหารวังน่ารู้เหตุดังนั้นก็ยกมา ๒๐๐ เศษ พลทหารสองฝ่ายเข้าประทะชิงไชยรุกไล่ต้านทานยิงแทงฟันกันเปนสามารถ พลทหารวังน่าได้ทีตีกระโจมโถมแทงทลวงไล่ล้อมเข้าฆ่าฟันทหารวังหลวงตายเปนอันมาก จะต้านทานมิได้ ก็แตกฉานทิ้งนายทัพเสีย ก็พ่ายหนีไป ฝ่ายทหารวังน่าก็ล้อมพร้อมกันเข้ารุมจับหลวงไชยบูรณ์ได้ เอาตัวไปถวายแก่พระมหาอุปราช ๆ ให้เฆี่ยนหลวงไชยบูรณ์เสีย ๕๐ ที ให้ถามได้เนื้อความสิ้น แล้วให้จำมั่นไว้ วันหนึ่งพลทหารวังน่าประมาณ ๕๐๐ ยกมาทางถนนป่าผ้าเขียว เข้าพังคุกทลายเข้าไปแก้ไขเอาคนโทษประมาณ ๗๐๐ ปล่อยออกมาได้สิ้นจากคุก.

ครั้งนั้น พระธนบุรีมาอาสาเจ้าฟ้าอไภยยกพลทหาร ๕๐๐ ข้ามคลองสพานช้างเข้าตีค่ายวังน่าแตกได้ ๒ ค่าย ๓ ค่าย รบพุ่งกันเปนสามารถ พระมหาอุปราชรู้เหตุนั้น ตกพระไทย ปรารภจะหนีไป จึงปฤกษาด้วยข้าราชการว่า ทหารเราฝีมืออ่อนกว่าเขา รักษาค่ายไม่ได้ เห็นจะรับเขามิหยุด เราจะคิดประการใด ขุนชำนาญจึงกราบทูลพระ