หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/250

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๑๓

กรุณาว่า พระองค์อย่ากลัว อย่าเพ่อหนีก่อน ข้าพระพุทธเจ้าจะขออาสาถวายชีวิตร จะขอตายก่อนพระองค์ ข้าพระพุทธเจ้าจะถวายบังคมลาออกไปรบกันกับข้าศึกบัดนี้ ทรงพระกรุณาโปรดให้ม้าเร็วตามออกไปคอยดูข้าพระพุทธเจ้ารบกับข้าศึก ถ้าเห็นข้าพระพุทธเจ้าตายในที่รบแล้ว ให้ม้าใช้กลับมาจงเร็วกราบทูลพระกรุณาให้ทราบ พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระพุทธเจ้านี้ตายแล้วจึงหนี ถ้าข้าพระพุทธเจ้ายังไม่ตาย อย่าเพ่อหนีก่อน ว่าแล้วถวายบังคมลามาจัดพลทหาร ๓๐๐ เศษออกไปถึงทัพพระธนบุรี ก็ขับไล่พลทหารเข้าจู่กระโจมตีหักหาญ ต่อต้านชิงไชย ทลวงไล่ลุยประหาร ทะยานฟันแทง ต่อแย้งต่อยุทธ โห่อึงอุตม์เอาไชย ขุนชำนาญทหารใหญ่ บุกรุกไล่ไม่ท้อถอย ระวังคอยป้องกัน รุกไล่ตีรันฟันฟาด ทหารพระธนบุรีแตกหนีดาษกันไป พระธนบุรีหาหนีไม่ ขึ้นม้าผูกเครื่องใหม่ ใจหาญรับต้านทาน ขุนชำนาญทหารใหญ่ บุกรุกไล่เข้าฟาดฟันพระธนบุรี ๆ แทงด้วยหอกผัดผัน รบสู้กันเปนสามารถ ขุนชำนาญถือดาบฟาดสองมือมั่น จู่โจมโถมเข้าจ้วงฟัน ถูกพระธนบุรีนั้นฅอขาดบนหลังม้าตายในที่รบ ขุนชำนาญคนขยันตัดศีศะมาถวาย ฝ่ายทหารทั้งหลายไล่ติดตามเข่นฆ่าพลโยธาวังหลวงไป จับได้บ้าง ตายก็เปนอันมากในที่รบนั้น สมเด็จพระมหาอุปราชทอดพระเนตรเห็นศีศะพระธนบุรี มีพระไทยยินดียิ่งนัก ตรัศสั่งให้จัดพลทหารขึ้นเปนอันมาก จะให้ไปตีพระราชวังหลวง ฝ่ายพระราชบุตรทั้งสองพระองค์ คือ เจ้าฟ้าอไภย แลเจ้าฟ้าบรเมศร เห็นพลทหารปราไชยเปนหลายครั้ง ก็สดุ้งตกพระไทยกลัว ให้เอาพระราชทรัพย์ต่าง ๆ เปนอันมากลงเรือพระที่นั่งลำเดียวกัน ก็หนีไปในราตรีกาล