หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/253

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๑๖

จึงถามว่า จะนำไปได้ฤๅมิได้ จึงบอกว่า จะไปให้ถึงที่นั้นได้ ว่าแล้วจึงนำข้าหลวงนั้นไปขุดเอาพระธำมรงค์นั้นได้ที่ริมต้นยาง ข้าหลวงก็นำเอาพระธำมรงค์นั้นมาถวาย จึงทรงพระกรุณาตรัศสั่งให้ลูกขุนพิจารณาพิพากษาโทษเจ้าพระองค์แก้ว ลูกขุนเห็นว่า พระธำมรงค์อยู่ในบ้านเรือนเจ้าพระองค์แก้ว จึงพิพากษาว่า เจ้าพระองค์แก้วเปนกระบถ โทษถึงตาย จึงกราบทูลพระกรุณาให้ทราบ แล้วให้ประหารชีวิตรเจ้าพระองค์แก้วนั้นเสีย ส่วนนายด้วงมหาดเล็กไปด้วยเจ้าทั้งสองนั้น ทรงพระกรุณาโปรดว่า อ้ายด้วงนี้มันกตัญญูจงรักภักดีในเจ้า อย่าฆ่ามันเสียเลย เลี้ยงไว้ให้เปนข้าราชการสืบไปเถิด ส่วนนายเสมพระยาพิไชยราชา แลนายพูนพระยายมราช คนทั้งสองนี้ ครั้นเจ้าหนีไปแล้ว ก็พากันหนีไปบวชเปนภิกษุอยู่ในแขวงเมืองสุพรรณบุรี ข้าหลวงทั้งหลายติดตามไปได้ตัวภิกษุทั้งสองนั้นมา ให้รักษาคุมตัวไว้ในวัดฝาง นายสังราชาบริบาลหนีไปบวชเปนภิกษุอยู่แขวงเมืองบัวชุม ข้าหลวงติดตามไปได้ตัวมา สึกออกแล้วให้ประหารชีวิตรเสียที่หัวแตลงแกง พระมหาอุปราชให้แขกจามมาแทงภิกขุสองรูปอันอยู่ที่วัดฝางนั้นตายเวลากลางคืน หมื่นราชสิทธิกรรม์กรมช้างเปนบุตรปขาวจันเพ็ชร เอาปืนใหญ่ขึ้นบนโรงช้างยิงไปในพระราชวังน่าเมื่อรบกันอยู่นั้นถูกกิ่งต้นสนหัก พระมหาอุปราชรู้จักตัว ทรงพระพิโรธ ให้จับหมื่นราชสิทธิกรรม์ได้ตัวมา ให้เฆี่ยน ๕๐ ที แล้วให้ถามได้ความว่า เปนบุตรปขาวจันเพ็ชร ให้หาปขาวจันเพ็ชรมา พระองค์รู้จักอยู่แต่ก่อน จึงตรัศถามว่า ปขาวจันเพ็ชร อ้ายหมื่นราชสิทธิกรรม์บุตรของท่านกระทำการดังนี้ โทษตัวมันจะเปนประการใด ปขาวจันเพ็ชรจึงกราบทูล