หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/263

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๒๖

ครั้นลุศักราช ๑๑๐๒ ปีวอก โทศก ถึงณเดือนสิบสอง สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเปนขบวนพยุหบาตราใหญ่ทั้งทางบกทางเรือ พร้อมจัตุรงคโยธาหาญสารสินธพอเนกนานาแลนาวาเปนอันมาก เสด็จขึ้นไปเมืองพระพิศณุโลก นมัสการพระพุทธชินราชแลพระชินสีห์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปเมืองศรีพนมมาศทุ่งยั้ง นมัสการพระแท่นศิลาอาศน์แลพระมหาธาตุณเมืองสวางคบุรี ให้มีงานมหรศพสมโภชแห่งละสามวันสามวัน แล้วเสด็จกลับยังพระมหานครศรีอยุทธยา.

ลุศักราช ๑๑๐๓ ปีรกา ตรีศก จึงพระราชโกษาปานบ้านวัดรฆังกราบทูลพระกรุณาว่า จะขอพระราชทานให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรมขุนเสนาพิทักษ์ขึ้นประดิษฐานณที่พระมหาอุปราชกรมพระราชวังบวรตามโบราณจารีตราชประเพณี จึงทรงพระกรุณาโปรดดำรัศสั่งให้ประชุมเสนาบดีปฤกษา ครั้นเห็นสมควรพร้อมกันแล้ว จึงให้ตั้งพระราชพิธีอุปราชาภิเศกอัญเชิญเจ้าฟ้ากรมขุนเสนาพิทักษ์ขึ้นเถลิงถวัลยราชสถิตย์ที่พระมหาอุปราชเปนกรมพระราชวังบวรสถานมงคลสืบขัติยราชตระกูลตามคำปฤกษามุขมนตรีทั้งปวง แล้วทรงพระกรุณาโปรดให้เจ้าฟ้าอินทสุดาวดีเปนกรมขุนยิสารเสนี พระราชทานให้เปนพระอรรคมเหษีกรมพระราชวังบวรฯ นั้น.

ลุศักราช ๑๑๐๔ ปีจอ จัตวาศก พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชดำรัศสั่งกรมพระราชวังบวรฯ ให้เปนแม่การกระทำปฏิสังขรณวัดพระศรีสรรเพชญ์ขึ้นใหม่ อนึ่ง พระเศียรพระพุทธปฏิมากรพระองค์ใหญ่ในพระมรฎปวัดสุมงคลบพิตรซึ่งหัก