หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/266

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๒๙

ยกสมิงแซงมูขึ้นเปนเจ้าเมืองหงษาวดี คิดการขบถแขงเมือง ไม่ไปขึ้นกรุงรัตนบุรอังวะเหมือนแต่ก่อน จึงตั้งน้องชายคนหนึ่งเปนพระยาอุปราชา น้องอิกคนหนึ่งเปนพระยาทละ หลานคนหนึ่งเปนตละปั้นกองหาญ แลกวยคนหนึ่งมีความรู้วิชาการดี ตั้งให้เปนสมิงท่อ ได้เปนบุตรเขยเจ้าเมืองหงษาวดี ช่วยกันเกลี้ยกล่อมซ่องสุมพวกรามัญหัวเมืองอื่น ๆ มาเข้าด้วยเปนอันมาก.

ฝ่ายนักวารุตองพม่าเจ้าเมืองเมาะตมะ แลมังรายจอสู่ปลัดเมือง ได้แจ้งเหตุว่า รามัญเมืองหงษาเปนขบถ เกรงจะยกมาตีเมืองเมาะตมะ ครั้นจะขึ้นไปเมืองอังวะก็ไม่ได้ ด้วยเมืองหงษาวดีนั้นอยู่กลางทาง จึงคิดพร้อมใจกันพาครอบครัวอพยพพรรคพวกของตัวเปนคนสามร้อยเศษหนีเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารทางเมืองตนาวศรี แลกรมการเมืองตนาวศรีบอกเข้ามาให้โกษาธิบดีกราบทูลพระกรุณาให้ทราบ จึงดำรัศให้ข้าหลวงออกไปรับครัวพม่าพวกนั้นเข้ามายังพระนคร พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานบำเหน็จรางวัลแก่นักวารุตองแลมังรายจอสู่ซึ่งเข้ามาศวามิภักดินั้น แล้วโปรดให้ปลูกเคหฐานบ้านเรือนพระราชทานให้แก่ครัวพม่าพวกนั้นให้อยู่ณที่ใกล้วัดมณเฑียร แลพระราชทานให้ทั้งตราภูมิคุ้มห้ามให้ค้าขายทำมาหากินเปนศุข.

ลุศักราช ๑๑๐๖ ปีชวด ฉศก ถึงณวันเดือนสิบสอง แรมสองค่ำ เกิดเพลิงไหม้ในพระราชวังบวรสถานมงคล จึงเสด็จพระราชดำเนินเข้ามาอยู่ณพระราชวังหลวง เสด็จขึ้นสถิตย์ณพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ท้ายสระ เอาพระที่นั่งทรงปืนเปนที่เสด็จออก แล้วโปรดให้ปลูก