หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/278

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๔๑

ลุศักราช ๑๑๑๗ ปีกุญ สัปดศก ถึงณเดือนหก สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปฉลองวัดนางคำ ครั้งนั้น ฝนตกชุกหนัก จึงมีพระราชดำรัศให้สังฆการีธรรมการไปนิมนต์พระอาจารย์วัดพันทาบแขวงเมืองวิเศษไชยชาญลงมาให้เข้านั่งสมาธิช่วยห้ามฝน แลพระอาจารย์นั้นให้กราบทูลว่า มีธุระอยู่ จะถวายพระพรลากลับไปปลูกการเปรียญ จะขอพระผู้เปนเจ้าองค์หนึ่งซึ่งชำนาญในทางพระกรรมฐานมาบอกวิธีให้เข้านั่งสมาธิห้ามฝนแทนอาตมา จึงทรงพระกรุณาให้นิมนต์พระญาณรักขิต พระราชาคณะฝ่ายวิปัสสนาธุระอยู่ณวัดสังกทานั้น มาเรียนวิธีทางพระกรรฐานในสำนักนิ์พระอาจารย์วัดพันทาบ ๆ บอกวิธีให้แล้วก็ถวายพระพรลากลับไปอาราม แลการฉลองวัดนางคำนั้นมีงานมหรศพสามวัน ทั้งมีโจนร่มด้วย เพลาเย็น ฝนตั้งมา พระญาณรักขิตเข้านั่งสมาธิบนเตียง มีเพดานแลม่านผ้าขาวรอบตั้งอยู่กลางแจ้ง แลพระผู้เปนเจ้าเจริญวาโยกสิณภาวนา บังเกิดพยุใหญ่พัดฝนเลิกไปทั้งสามวัน หาตกไม่ เห็นประจักษ์เปนมหัศจรรย์ ต่อถึงวันคำรับสี่ เลิกงานแล้ว ฝนห่าใหญ่จึงตก น้ำนองท่วมที่ทั้งนั้นสิ้น.

ในปีนั้น พระมหาอุปราชกรมพระราชวังบวรทรงพระประชวรพระโรคสำหรับบุรุษกลายไปเปนพระโรคคชราช แต่ไม่ได้เสด็จเข้ามาเฝ้าถึงสามปีเศษ วันหนึ่ง มีพระบัณฑูรให้ตำรวจมาเอาตัวเจ้ากรม ปลัดกรม นายเวร ปลัดเวร กรมหมื่นจิตรสุนทร กรมหมื่นสุนทรเทพ กรมหมื่นเสพภักดี มาถามว่า เจ้ากรมเปนแต่หมื่น ตั้งกันในกรมขึ้นเปนขุน ทำสูงกว่าศักดิ์ ให้ลงพระราชอาชญาโบยหลังคนละ ๑๕ ทีบ้าง ๒๐ ทีบ้าง เพลากลางคืน ให้คนเข้ามาด้อมมองอยู่ประตูสระแก้ว 

๑๖