หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/282

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๔๕

ช้างนั้นฝึกสอนชำนิชำนาญแล้ว ให้นำเข้ามาไว้ณโรงยอดในพระราชวัง พระราชทานขนานนาม พระบรมไตรจักรอรรคคชาธาร.

ลุศักราช ๑๑๑๙ ปีฉลู นพศก เดือนห้า กรมหมื่นเทพพิพิธจึงปฤกษาด้วยเจ้าพระยาอไภยราชาผู้ว่าที่สมุหนายก แลเจ้าพระยามหาเสนา พระยาพระคลัง พร้อมกัน แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า จะขอพระราชทานให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรมขุนพรพินิตขึ้นประดิษฐานณที่พระมหาอุปราชกรมพระราชวังบวรสถานมงคล จะได้บำรุงรักษาแผ่นดินสืบไป ฝ่ายเจ้าฟ้ากรมขุนพรพินิตจึงทรงทำเรื่องราวกราบทูลพระกรุณาว่า เจ้าพี่กรมขุนอนุรักษ์มนตรียังมีอยู่ ขอพระราชทานให้เปนกรมพระราชวัง จึงจะสมควร จึงมีพระราชโองการตรัศว่า กรมขุนอนุรักษ์มนตรีนั้นโฉดเขลา หาสติปัญญาแลความเพียรมิได้ ถ้าจะให้ดำรงถานาศักดิ์มหาอุปราชสำเร็จราชกิจกึ่งหนึ่งนั้น บ้านเมืองก็จะเกิดไภยพิบัติฉิบหายเสีย เห็นแต่กรมขุนพรพินิตกอปรด้วยสติปัญญาเฉลียวฉลาดหลักแหลม สมควรจะดำรงเสวตรฉัตรครองสมบัติรักษาแผ่นดินสืบไปได้เหมือนดังคำปฤกษาท้าวพระยามุขมนตรีทั้งปวง จึงดำรัศสั่งเจ้าฟ้ากรมขุนอนุรักษ์มนตรีว่า จงไปบวชเสีย อย่าให้กีดขวาง เจ้าฟ้ากรมขุนอนุรักษ์มนตรีมิอาจขัดพระราชโองการได้ กลัวพระราชอาชญา ก็ต้องจำพระไทยทูลลาไปทรงผนวช แล้วเสด็จขึ้นไปอยู่ณวัดลมุดปากจั่น จึงทรงพระกรุณาโปรดให้กระทำพระราชพิธีอุปราชาภิเศกณพระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท อัญเชิญเจ้าฟ้ากรมขุนพรพินิตเถลิงถวัลยราชณที่กรมพระราชวังบวรฯ แต่มิได้เสด็จขึ้นไปสถิตย์ณพระราชวัง