หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/283

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๔๖

น่า เสด็จอยู่ณพระตำหนักสวนกะต่ายในพระราชวังหลวงตามเคยเสด็จอยู่แต่ก่อนนั้น.

ครั้นถึงณเดือนเจ็ดในปีฉลู นพศก กรมหมื่นจิตรสุนทรกราบทูลพระกรุณาว่า ช้างต้นพระบรมจักรพาฬหัตถีนั้นงายาวออกให้จำเริญเข้าไปเกือบจะถึงไส้งาอยู่แล้ว เกรงจะล้มเสีย จึงดำรัศว่า เราจะเอาไปถวายพระพุทธบาท แล้วจะปล่อยไปป่า.

ครั้นถึงเดือนเก้า จึงเสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปสมโภชพระพุทธบาท ให้เอาช้างต้นพระบรมจักรพาฬหัตถีนั้นไปด้วย เสด็จประทับแรมอยู่ณพระตำหนักท่าเจ้าสนุกสามเวร แล้วทรงพระวอขึ้นไปถึงตำหนักท้ายพิกุล รุ่งขึ้น เพลาเช้า ให้ทำเครื่องสด ผูกช้างต้นพระบรมจักรพาฬหัตถี แล้วเสด็จขึ้นนมัสการพระพุทธบาท ทรงพระราชอุทิศถวายช้างต้น แล้วให้ปล่อยไปทางธารกระเษม ให้เวียนพระเทียนกระทำพุทธสมโภช แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับยังกรุงเทพมหานคร อยู่สองสามวัน มีหนังสือบอกกรมการเมืองลพบุรีลงมาว่า ช้างต้นพระบรมจักรพาฬหัตถีซึ่งทรงถวายพระพุทธบาทปล่อยไปนั้นหาไปป่าไม่ เข้ามาในเมืองลพบุรีมานอนอยู่ริมศาลากลาง สมุหนายกกราบบังคมทูลพระกรุณา จึงดำรัศว่า พระยาช้างนั้นมีจิตสวามิภักดิรักเรา จะกลับมาอยู่กับเราอิก จึงโปรดให้กรมช้างไปรับลงมายังพระนคร ให้เข้าผูกโรงดังเก่า พระราชทานนามผลัดใหม่ชื่อ พระพิไชยจักรพาฬหัตถี.

ครั้นถึงณเดือนสิบสอง แรมสองค่ำ เพลากลางคืน ลมว่าวพัดหนัก พระมหาธาตุวัดบวรโพธินั้นทำลายลง.