หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/290

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๕๓

เจ้าพระยาอไภยราชาก็เห็นชอบด้วย ครั้นเพลาค่ำจึงพากันไปณวัดกระโจม เข้าเฝ้ากรมหมื่นเทพพิพิธ แล้วกราบทูลปฤกษาตามคดีซึ่งคิดกันนั้น กรมหมื่นเทพพิพิธก็ตรัศว่า ข้าก็เห็นด้วย แต่เกรงว่า ขุนหลวงหาวัดท่านจะไม่ยอมสึกออกมาครองสมบัติ เราจำจะไปทูลปฤกษาพระองค์ท่านดูก่อน ถ้าท่านยอมด้วยแล้วจึงคิดทำการ.

ครั้นค่ำอิกวันหนึ่ง กรมหมื่นเทพพิพิธกับขุนนางทั้งสี่คนก็พากันไปเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวซึ่งทรงผนวชณวัดประดู่ แล้วกราบทูลความซึ่งคิดกันนั้น ครั้นได้ทรงทราบจึงตรัศว่า รูปเปนสมณ จะคิดอ่านการแผ่นดินด้วยนั้นไม่ควร ท่านทั้งปวงเห็นควรประการใดก็ตามจะคิดกันเถิด กรมหมื่นเทพพิพิธกับขุนนางทั้งสี่ก็เข้าใจว่าทรงยอมแล้ว ก็ทูลลากลับมา.

ฝ่ายพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวชจึงทรงพระดำริห์ว่า คนเหล่านี้คิดการขบถจะทำการใหญ่ ถ้าเขาทำการสำเร็จจับพระเชษฐาได้แล้ว เขาจะมาจับเราเสียด้วย จะยกกรมหมื่นเทพพิพิธขึ้นครองสมบัติ เราสองคนพี่น้องก็จะพากันตาย จะนิ่งไว้มิได้ จำจะไปทูลพระเจ้าพี่ให้รู้พระองค์จึงจะชอบ ครั้นรุ่งขึ้นเช้าจึงเสด็จเข้ามาในพระราชวังเข้าเฝ้าพระเชษฐาธิราช ถวายพระพรแถลงรหัศเหตุนั้นให้ทราบสิ้นทุกประการ แล้วถวายพระพรว่า อาตมภาพเปนสมณะ จะเกี่ยวข้องสิกขาบท จะรับพระราชทานแต่ชีวิตรคนเหล่าร้ายอย่าให้ถึงตาย แล้วถวายพระพรลากลับไปอาราม.

สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินจึงมีพระราชโองการตรัศสั่งเจ้ากรมปลัดกรมพระตำรวจทั้งแปดกรมให้ไปจับคนเหล่าร้าย ให้ข่าวปรากฎไปว่า มี