หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/292

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๕๕

อิกครั้งหนึ่งกับด้วยข้าหลวง ออกไปผลัดพระสงฆ์ซึ่งไปครั้งก่อนนั้นให้กลับเข้าพระนคร แลให้เอากรมหมื่นเทพพิพิธลงกำปั่นไปปล่อยเสียณเกาะลังกาด้วย แล้วดำรัศสั่งให้ทำพระเมรุมาศขนาดใหญ่ ขื่อเจ็ดวาสองศอก แลการพระเมรุนั้นแปดเดือนจึงสำเร็จ.

ครั้นลุศักราช ๑๑๒๑ ปีเถาะ เอกศก ถึงณวัดขึ้นสิบเอ็จค่ำ เดือนห้า สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวจึงให้เชิญพระโกษฐพระบรมศพสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงแลสมเด็จพระพันปีหลวงไปขึ้นพระมหาพิไชยราชรถ ทั้งสองรถประดับด้วยรูปสัตวแลเครื่องแห่ทั้งปวง แห่ไปเข้าพระเมรุมาศ ให้มีงานมหรศพสมโภชแลสดับปกรณ์ ทรงถวายไตรจีวร บริกขาร แลไทยทานต่าง ๆ แก่พระสงฆ์เปนอันมาก ครบเจ็ดวันแล้วถวายพระเพลิง ครั้นดับพระเพลิงแล้ว แจงพระรูป พระสงฆ์สดับปกรณ์อิกสี่ร้อยรูป แล้วเก็บพระอัฐิใส่พระโกษฐน้อย แห่เข้ามาบรรจุไว้ณท้ายจรนำพระมหาวิหารวัดพระศรีสรรเพชดารามตามโบราณราชประเพณีสืบมา.

ฝ่ายข้ามภุกามประเทศ พระเจ้าอลองพราญีมังลองผู้ครองเมืองรัตนสิงค เมื่อมีไชยชำนะแก่รามัญแล้ว ก็ได้เปนอิศราธิบดีในอาณาเขตแผ่นดินพม่าทั้งสิ้น จึงให้ราชบุตรทั้งหกองค์แยกกันไปครองหัวเมืองต่าง ๆ ให้มังลอกราชบุตรผู้ใหญ่ไปครองเมืองดิเปะเยียง ให้มังระไปครองเมืองปิดู่ ให้มังโปไปครองเมืองอเมียง ให้มังเวงไปครองเมืองปดุง ให้มังจูไปครองเมืองปคาน ให้มังโพเชียงไปครองเมืองแปงตแล ให้สโดะมหาสิริยอุจนาผู้เปนอนุชานั้นไปครองเมืองตองอู พระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคโดยควรแก่ถานาศักดิ์ แล้ว