หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/295

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๕๘

ตีเอาเมืองให้จงได้ แล้วสั่งนายทัพนายกองให้จัดแจงการรบให้เข้มขันขึ้นกว่าแต่ก่อน.

ฝ่ายพระยาหงษาวดีแจ้งว่า พลทหารได้ไชยชำนะแก่พม่า ก็มีความยินดี จึงว่า ท่านทั้งปวงไม่ฟังเรา ชวนกันออกรบพม่าได้ไชยชำนะ แต่ตัวเราเคราะห์ร้ายเสียบุตรีคนหนึ่ง ก็แล้วไปเถิด เราจะคิดทำสงครามกับพม่าด้วยท่านทั้งปวงสืบไปอิก แล้วก็สั่งให้จัดแจงการป้องกันเมืองเปนสามารถ.

ฝ่ายพระเจ้าอลองพราญีก็ให้พลทหารขุดขนมูลดินปั้นเปนก้อนกองไว้เปนอันมากสูงเสมอกำแพงเมืองเปนหลายกอง แล้วให้ไล่ต้อนพวกมอญเชลยทั้งหลายมาให้ขนก้อนดินเข้าไปถมลงในคูเมืองเปนสามแห่ง ละแห่งละแห่งให้ถมกว้างสิบวา แต่ถมอยู่ถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน ชาวเมืองซึ่งขึ้นอยู่ประจำรักษาน่าที่เชิงเทินยิงปืนใหญ่น้อยออกมาต้องคนซึ่งถมดินนั้นล้มตายมากกว่ามาก นายทัพนายกองพม่าเร่งขับต้อนมอญเชลยให้ทิ้งถมลงไปทั้งก้อนดินแลศพคนซึ่งตายนั้นจนเต็มคูเสมอถึงที่ทั้งสามแห่ง พระเจ้าอลองพราญีจึงสั่งนายทัพนายกองให้ยกพลทหารข้ามคูเมืองเข้าไปทั้งสามถนนเร่งเข้าปล้นเอาเมือง ชาวเมืองยกออกมาต่อรบเปนสามารถ แลมอญพม่าฆ่าฟันกันตายลงมากกว่ามากทั้งสองฝ่าย พลพม่ายกหนุนเนื่องกันเข้าไปมิได้ท้อถอย ฝ่ายรามัญเห็นเหลือกำลังก็ลาดถอยเข้าเมือง พม่ายกติดตามเข้าเมืองได้ แต่รบกันอยู่ถึงเจ็ดเดือนเศษได้เมืองหงษาวดี แลพระเจ้าอลองพราญีกระทำสงครามกับรามัญ ตั้งแต่ตีเมืองย่างกุ้ง เมืองเสี่ยง จนตีเมืองหงษาวดีได้นั้น ถึงปีเศษจึงเสร็จการศึก ให้จับพวกมอญ