หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/297

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๖๐

ครั้นถึงเดือนอ้าย กรมการเมืองตนาวศรีบอกหนังสือข่าวศึกเข้ามาณกรุงเทพมหานครว่า เจ้าพม่าชื่อ มังลอง ยกกองทัพมาประมาณสามหมื่นเศษ ตีได้เมืองทวาย แล้วจะยกมาตีเมืองมฤต เมืองตนาวศรี โกษาธิบดีกราบทูลพระกรุณาตามหนังสือข้อราชการศึก.

สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวจึงดำรัศสั่งเสนาบดีให้เกณฑ์กองทัพ ขณะนั้น พระยายมราชเปนโทษอยู่ จึงโปรดให้พระอินทราราชรองเมืองเปนพระยมราชเปนแม่ทัพ ให้พระยาเพ็ชรบุรีเปนทัพน่า พระยาราชบุรีเปนยุกรบัตร พระสมุทสงครามเปนเกียกกาย พระธนบุรีกับพระนนทบุรีเปนทัพหลัง ถือพลสามพันเศษ พร้อมด้วยช้างม้าเครื่องสาตราวุธยกไปทัพหนึ่ง แลให้เกณฑ์อิกทัพหนึ่ง โปรดให้พระยารัตนาธิเบศผู้ว่าที่ธรรมาเปนแม่ทัพ แลจัดเอาท้าวพระยาอาสาหกเหล่าเปนยุกรบัตรเกียกกายทัพน่าหลัง ถือพลสองพันเศษ สรรพด้วยช้างม้าเครื่องสาตราวุธ ให้ยกหนุนไปอิกทัพหนึ่ง.

ขณะนั้น ขุนรองปลัดชูเปนกรมการเมืองวิเศษไชยชาญ เข้ามารับอาสากับไพร่สี่ร้อยเศษขอไปรบพม่าด้วย จึงโปรดให้เปนกองอาจสามารถกองหนึ่ง ให้ไปในกองทัพพระยารัตนาธิเบศ แลท้าวพระยานายทัพนายกองทั้งสองทัพก็กราบถวายบังคมลายกกองทัพออกจากพระนครเนื่อง ๆ กันไป แลทัพพระยมราชไปตั้งค่ายรับอยู่ตำบลแก่งตุ่ม ทัพพระยารัตนาธิเบศไปตั้งค่ายมั่นอยู่ณเมืองกุยบุรี จึงทรงพระกรุณาโปรดให้เจ้าเมืองกรมการหัวเมืองทั้งปวงไล่ต้อนเลขสำหรับเมืองเข้ามาช่วยรักษาพระนคร แลครอบครัวหัวเมืองทั้งปวงนั้นให้ยักย้ายหลบหนีเข้าซุ่มซ่อนอยู่ในป่า อย่าให้ข้าศึกจับเอาไปได้.