หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/299

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๖๒

พระยมราช พากันพ่ายหนีพม่าข้าศึกกลับมายังพระนคร ขึ้นเฝ้ากราบทูลพระกรุณาว่า ศึกหนักเหลือกำลัง จึงพ่าย.

ฝ่ายทัพน่าพม่าก็ยกมาทางเมืองกุย เมืองปราณ เมืองชอ่ำ เมืองเพ็ชรบุรี เมืองราชบุรี จนถึงเมืองสุพรรณบุรี ไม่มีหัวเมืองใดต่อรบ แตกหนีไปสิ้น ทัพหลวงก็ยกตามมาตั้งอยู่ณเมืองสุพรรณบุรี ขณะนั้น ขุนนางแลอาณาประชาราษฎรทั้งหลายชวนกันไปกราบทูลวิงวอนพระเจ้าอยู่หัววัดประดู่เชิญเสด็จลาผนวชออกมาช่วยราชการแผ่นดิน พระเจ้าอยู่หัวมีพระไทยกรุณาแก่ไพร่ฟ้าประชากร เกรงพระนครจะเสียแก่ข้าศึก จึงลาผนวชออกมาช่วยราชการพระเชษฐาธิราชรักษาแผ่นดินป้องกันพระนคร จึงมีรับสั่งโปรดให้ถอดเจ้าพระยาอไภยราชา พระยายมราช พระยาเพ็ชรบุรี ออกจากโทษ ให้คงที่ถานาศักดิ์ว่าราชการตามเดิม แล้วให้กวาดต้อนไพร่พลเมือง แลครอบครัว เสบียงอาหาร เข้าพระนคร แลกำแพงเมืองตามน่าพระราชวังด้านข้างริมน้ำนั้นเดิมมีแต่ชั้นเดียว ให้ก่อกำแพงขึ้นใหม่ภายนอกอิกชั้นหนึ่งต่ำกว่ากำแพงเดิม แลให้เอาไม้ขอนสักขึ้นผูกแขวนตามใบเสมาแลปักเปนเขื่อนปิดประตูบกน้ำทั้งสิ้น แล้ให้เอาปืนล้อปืนหลักขึ้นตั้งรายเรียงบนเชิงเทิน เกณฑ์พลทหารขึ้นประจำรักษาน่าที่รอบพระนคร แล้วให้เกณฑ์กองทัพ โปรดให้เจ้าพระยามหาเสนาเปนแม่ทัพ กับพระยารัตนาธิเบศ พระยมราช พระยาราชวังสรรค์ แลข้าราชการทั้งปวงยกกองทัพใหญ่พลสองพันเศษออกไปตั้งรับทัพพม่าข้าศึก ไปตั้งค่ายรายกันอยู่ตามลำน้ำเอกราชเปนหลายค่าย แล้วให้จับพระยาราชมนตรี จมื่นศรีสรรักษ์ มาจำไว้ ให้มีกระทู้ถามว่า เข้าไปภายในพระราชวังคบหาทำชู้ด้วย