หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/301

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๖๔

โปรดให้หมื่นทิพเสนาปลัดกรมพระตำรวจในขวาถือพลพันหนึ่งยกหนุนออกไปคอยช่วย ตั้งพลอยู่ณที่ปรกวัดทเลหญ้า แลทัพจีนยังมิทันจะตั้งค่ายมั่น พอแมงละแมงข่องนายกองทัพน่าพม่าแลเห็น ก็จับพลทหารข้ามแม่น้ำโพธิ์สามต้นมาตีกองทัพจีนแตกพ่ายลงน้ำหนีขึ้นบก ทหารม้าพม่าเห็นได้ที ก็ขับม้าข้ามน้ำไล่ติดตามยิงปืนบนหลังม้า แลพุ่งหอกซัดต้องพลทัพจีนตายในน้ำในบกเปนอันมาก ไล่มาถึงทัพหมื่นทิพเสนา ๆ เห็นทัพจีนแตก ก็มิได้เข้าช่วยอุดหนุน พลอยแตกข้ามน้ำหนีมาด้วย เสียไพร่พลไทยจีนตายเปนอันมาก พม่าก็ยกกองทัพตามเข้ามาตั้งค่ายณพเนียด แลวัดพระเจดีย์แดง วัดสามพิหาร ให้ทำบันไดไว้เปนอันมากสำหรับจะพาดกำแพงปีนปล้นเอาเมือง ขณะนั้น แต่บรรดาเรือราษฎรลูกค้าเหนือใต้ทั้งปวงก็ถอยลงไปจอดคับคั่งกันอยู่ณท้ายคู แลเรือพระที่นั่งกิ่งไชยศรีกราบแลเรือดั้งกันเรือศีศะสัตวทั้งหลายใหญ่น้อย กับทั้งกำปั่นแลเรือรบ ก็โปรดให้ถอยลงไปจอดไว้ที่ท้ายคูทั้งสิ้น.

ครั้นถึงณวันแรมแปดค่ำ เดือนห้า ปีมโรง โทศก ศักราช ๑๑๒๒ ปี พลพม่าประมาณสองพันยกไปตีที่ท้ายคูทั้งสองฟาก บรรดาครอบครัวชายหญิงซึ่งอยู่บกนั้น พม่าจับผูกมัดฆ่าฟันตายเปนกอง ๆ ที่อยู่เรือแออัดกันทั้งแม่น้ำนั้น พม่าลงในเรือไล่ฆ่าฟันล้มตายเปนอันมาก แล้วเผากำปั่นแลเรือหลวงใหญ่น้อยทั้งปวงเสียสิ้น อาศพลอยเต็มทั้งแม่น้ำจนน้ำกินไม่ได้ ที่จับได้เปนไปก็มาก.

ครั้นณวันแรมสิบสี่ค่ำ เดือนห้า พม่าเอาปืนใหญ่มาตั้งณวัดราชพฤกษ์แลวัดกระษัตราวาศ ยิงเข้ามาในพระนคร ถูกเย่าเรือน