หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/302

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๖๕

แลคนเจ็บป่วยล้มตาย จึงสมเด็จพระอนุชาธิราชเสด็จทรงช้างต้นพลายแสนพลพ่ายไปเลียบพระนครทอดพระเนตรตรวจไปทุก ๆ น่าที่ ตรัศกำชับเจ้าน่าที่ทั้งปวงให้ระวังรักษาจงกวดขันอย่าประมาท แล้วดำรัศสั่งให้เจ้าน่าที่ตรงวัดสวนหลวงศพสวรรค์ แลป้อมท้ายกบ ป้อมมหาไชย ให้ระดมยิงปืนใหญ่เอาพม่าณฝั่งฟากข้างโน้น ครั้นเพลาเย็น พม่าเลิกข้ามฟากไปข้างวัดภูเขาทอง ครั้นณวันขึ้นค่ำหนึ่ง เดือนหก เพลาเช้า พม่าเอาปืนใหญ่เข้ามาตั้งณวัดพระเมรุราชิการามแลวัดท่าช้าง จังก้ายิงระดมเอาพระราชวังแลพระที่นั่งสุริยามรินทรทั้งกลางวันกลางคืน ต้องยอดปราสาททำลายลง

ครั้นณวันขึ้นสองค่ำ เดือนหก ปีมโรง โทศก กองทัพพม่าเลิกกลับไปทางเหนือตาวแนวแม่น้ำใหญ่ แลได้ข่าวว่า พระเจ้าอลองพราญีมังลองมาให้จุดปืนใหญ่ยิงปราสาท ปืนแตกต้องพระกาย กลับไปค่ายบางกุ่ม ประชวรหนัก จึงเร่งเลิกทัพกลับไปโดยเร็ว ให้แมงละแมงข่องคุมพลหมื่นหนึ่งอยู่รั้งหลัง แลทัพหลวงนั้นยกรีบไปถึงตำบลเมาะกโลกนอกด่านเมืองตากเปนระหว่างแดนต่อแดน พระเจ้าอลองพราญีมังลองก็ดับสูญทิวงคตในที่นั้น แต่ได้เสวยราชสมบัติอยู่แปดปี

พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ได้ทรงทราบว่า กองทัพพม่าข้าศึกยกไปแล้ว จึงมีพระราชดำรัศสั่งให้พระยายมราช พระยาสีหราชเดโช ยกกองทัพไปติดตามทัพพม่า แลยกไปถึงด่านเมืองตาก ตามไม่ทัน แล้วก็กลับมายังพระมหานคร

ฝ่ายมังระ ราชบุตร ก็เชิญพระศพไปถึงด่านแม่ลำเมา จึงหยุดทัพอยู่สามวัน กระทำการถวายพระเพลิงในที่นั้น เสร็จแล้วก็เก็บ