หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/306

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๖๙

บอกหนังสือไปให้กราบทูลมังลอก มังระ ๆ ดีพระไทยนัก แต่เกรงฝีมือแมงละแมงข่องอยู่ จึงสั่งให้ทุบแขนทั้งสองเสียให้หัก แล้วจึงส่งตัวเข้าไปถวาย แลกองทัพทั้งนั้นก็นำเอาตัวแมงละแมงข่องเข้าไปทั้งกรงถึงเมืองรัตนสิงค มังลอก มังระ ก็ให้เอาตัวแมงละแมงข่องไปผ่าอกประหารชีวิตรเสีย แล้วปูนบำเหน็จหยั่งมิตั้งให้เปนมังมหานันทมิตร ขุนนางผู้ใหญ่ฝ่ายข้างทหาร พระราชทานเงินทองแลเครื่องยศกับทั้งบ่าวไพร่แลเคหฐานบ้านเรือนโดยสมควรแก่ความชอบ ครั้นการศึกเสร็จแล้ว ในปีมโรง โทศกนั้น เสนาบดีทั้งปวงก็ประชุมพร้อมกันอัญเชิญมังลอก ราชบุตรผู้ใหญ่ ขึ้นเสวยราชสมบัติณเมืองรัตนสิงค เปนเจ้าแผ่นดินในภุกามประเทศสืบพระวงษ์ต่อไป จึงตั้งมังระ ราชอนุชา เปนเองยิแมง มหาอุปราช ตั้งมังโป อนุชาที่สองผู้ครองเมืองอะเมียงซึ่งเรียกว่า อะเมียงตะแคง นั้นเปนอะนาวิงด่อ พระราชวงษ์ผู้ใหญ่ แล้วชุบเลี้ยงขุนนางทแกล้วทหารตั้งในตำแหน่งถานาศักดิ์ตามมีความชอบมากแลน้อย

ครั้นถึงปีมเสง ตรีนิศก สโดะมหาศิริยอุจนา ผู้เปนอาว เจ้าเมืองตองอู ถือตัวว่าเปนผู้ใหญ่ มิได้มาอ่อนน้อมยอมเปนเมืองขึ้น พระเจ้ามังลอก กับมังระ มหาอุปราช จึงยกทัพหลวงไปตีเมืองตองอู จับได้ตัวสโดะมหาศิริยอุจนา มิได้ประหารชีวิตรด้วยคิดว่าเปนอาว นำมาเลี้ยงไว้ณเมืองรัตนสิงค ในปีนั้น ให้เสนัดหวุ่นไปเกลี้ยกล่อมตละปั้นซึ่งหนีไปนั้น ได้ตัวมาเลี้ยงไว้

ฝ่ายข้างกรุงเทพมหานครนั้น ขณะเมื่อทัพพม่าเลิกไปแล้ว มีพระราชดำรัศให้ข้าหลวงออกไปค้นณค่ายหลวงพม่าตำบลบางกุ่ม ขุด