หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/309

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๗๒

เชียงใหม่เสียแก่พม่าแล้ว ก็บอกลงมาให้กราบบังคมทูลให้ทราบ จึงโปรดให้สมุหนายกมีตราขึ้นไปให้หากองทัพกลับ

ฝ่ายกองทัพพม่ายกมาตีเมืองเชียงใหม่ ตั้งล้อมเมืองอยู่ได้สี่เดือนห้าเดือน จึงเข้าหักเอาเมืองได้ จับได้ตัวพระยาจันท์ เจ้าเมือง แล้วมังมหานรทา แม่ทัพ ให้อาปะรกามนีอยู่รักษาเมืองเชียงใหม่กับไพร่พลพอสมควร แล้วก็เลิกทัพกลับไปเมืองรัตนสิงค คุมเอาตัวเจ้าเมืองเชียงใหม่ไปถวายพระเจ้ามังลอก มังระ พระเจ้ามังลอก มังระ ให้เลี้ยงไว้

ฝ่ายกำปั่นข้าหลวงณกรุงเทพมหานครซึ่งออกไปลังกาทวีปนั้น ครั้นถึงก็นำพระสงฆ์แลเจ้ากรมหมื่นเทพพิพิธขึ้นไปณเมืองสิงขัณฑนครเข้าเฝ้าพระเจ้าลังกา ๆ ได้ทราบว่า เปนขัติยวงษ์ในสยามประเทศ ก็ต้อนรับ โปรดเลี้ยงดูอยู่เปนศุข แลเมืองพระอุบาฬี พระอริยมุนี พระสงฆ์ออกไปครั้งก่อนนั้น พระเจ้าลังกาให้อยู่วัดบุบผาราม ได้บวชกุลบุตรชาวสิงหฬเปนภิกษุถึงเจ็ดร้อยเศษ สามเณรพันเศษ พระสงฆ์ซึ่งออกไปครั้งหลังนี้ได้บวชชาวสิงหฬเปนภิกษุอิกสามร้อย สามเณรนั้นก็มาก อยู่ได้ปีเศษ พระอริยมุนีซึ่งไปครั้งก่อน กับพระวิสุทธาจารย์ พระวรญาณมุนี ก็ถวายพระพรลาพระเจ้าลังกากลับมากับข้าหลวง แต่พระอุบาฬีนั้นมิได้มา แลพระสงฆ์อันดับนั้นอยู่บ้างกลับมาบ้าง มาถึงพระนครศรีอยุทธยาแต่ในปีมโรง โทศก เข้าถวายพระพรพระเจ้าแผ่นดินด้วยเหตุซึ่งออกไปตั้งพระพุทธสาสนาในลังกาทวีปนั้น

ฝ่ายเจ้ากรมหมื่นเทพพิพิธอยู่ในเกาะลังกา ขุนนางแลราษฎรนิยมยินดีนับถือมาก ด้วยรู้ว่า เปนพระภาติกราชพระเจ้ากรุงศรีอยุทธยา