หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/310

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๗๓

ชวนกันเข้าใจว่า ทรงพระศรัทธาอุตสาหะออกมาชุมพระพุทธสาสนาถึงลังกาทวีป ไม่แจ้งว่า ต้องบัพพาชนียกรรม จึงคิดการเปนขบถจะจับพระเจ้าลังกาถอดเสียจากเสวตรฉัตร แล้วจะยกกรมหมื่นเทพพิพิธขึ้นครองราชสมบัติในเมืองสิงขัณฑนคร มีผู้นำรหัศเหตุนั้นไปกราบทูลพระเจ้าลังกา ๆ จึงสั่งให้ข้าหลวงไปจับขุนนางเหล่าร้ายกับทั้งกรมหมื่นเทพพิพิธ ๆ รู้พระองค์ก่อน จึงหนีออกจากเกาะลังกาลงโดยสารสลุบแขกมาขึ้นอาไศรยอยู่เมืองเทศ ขณะนั้น ฦๅข่าวออกไปว่า กรุงเทพมหานครเสียแก่พม่าแล้ว กรมหมื่นเทพพิพิธได้ทราบเหตุ จึงลงโดยสารกำปั่นแขกลูกค้าเมืองเทศเข้ามาณเมืองมฤต กรมการบอกเข้ามา โกษาธิบดีกราบบังคมทูล จึงมีพระราชโองการสั่งให้มีตราตอบออกไปให้รับเข้ามาไว้ณเมืองตนาวศรี แล้วโปรดให้แต่งข้าหลวงออกไปกำกับอยู่ด้วย

ลุศักราช ๑๑๒๕ ปีมแม เบญจศก ฝ่ายภุกามประเทศ พระเจ้ามังลอกนั้นทิวงคต อยู่ในราชสมบัติได้สามปีเศษ เสนาบดีจึงประชุมเชิญมังระ มหาอุปราช อนุชา ขึ้นเสวยราชสมบัติเปนเจ้าแผ่นดินในภุกามประเทศสืบพระวงษ์ต่อไป พระเจ้ามังระจึงสั่งเสนาบดีให้ลงมาตกแต่งกรุงรัตนบุรอังวะ แล้วเสด็จจากเมืองรัตนสิงคลงมาอยู่ณกรุงอังวะตามโบราณราชกระษัตริย์สืบต่อมา

ในปีนั้น ตละปั้นเปนขบถ พระเจ้ามังระให้ประหารชีวิตรเสีย แล้วให้เกณฑ์กองทัพพลสกรรจ์สามหมื่นพร้อมด้วยช้างม้าเครื่องสรรพสาตราวุธ ให้อแซหวุ่นกี้เปนนายกองทัพน่า ติงจาโบ่เปนยุกรบัตร แอกกระบัดหวุ่นเปนเกียกกาย จิกสินโบ่เปนทัพหลัง 

๑๘