หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/311

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๗๔

พระเจ้าอังวะมังระเปนโบชุกแม่ทัพหลวง ยกไปตีเมืองมณีบุร คือ เมืองกระแซฝ่ายทิศตระวันตก ได้รับกับกระแซประมาณสามสี่เดือน ตีหัวเมืองรายทางฟากฝั่งชเลน้ำจืดข้างตระวันออกได้เปนหลายเมือง แต่เมืองหลวงตั้งอยู่ฝั่งฟากข้างตระวันตกนั้นยังตีไม่ได้ พอขัดเสบียง จึงให้กวาดครอบครัวอพยพกระแซหัวเมืองทั้งหลายซึ่งตีได้นั้นเปนอันมาก เลิกทัพหลวงกลับมาเมืองอังวะ

ฝ่ายเมืองทวาย ครั้งเมื่อพระเจ้ามังลอกยกทัพมาตีได้แต่ก่อนนั้น ตั้งขุนนางพม่าไว้เปนเจ้าเมืองกรมการกับทั้งไพร่พลอยู่รักษาเมือง แลขุนนางทวายคนหนึ่งชื่อ หุยตองจา ได้แจ้งข่าวว่า เมืองอังวะผลัดแผ่นดินใหม่ ก็ซ่องสุมพวกทวายชาวเมืองเข้าด้วยเปนอันมาก ยกเข้าปล้นเอาเมืองได้ ไล่ฆ่าฟันพม่าเจ้าเมืองกรมการแลไพร่พลซึ่งมารักษาอยู่นั้นตายสิ้น ก็ได้ครองเมืองทวาย จึงส่งหนังสือบอก แลแต่งดอกไม้ทองเงิน เครื่องราชบรรณาการ ให้ขุนนางทวายนำเข้ามาทูลเกล้าฯ ถวายณกรุงเทพฯ ขอขึ้นเปนข้าขอบขัณฑเสมาสืบไปเหมือนอย่างแต่ก่อน

ลุศักราช ๑๑๒๖ ปีวอก ฉศก ถึงณเดือนแปด น้ำเหนือหลากลงมาอิก แดงเหมือนน้ำดินแดงจาก อยู่สองวันก็หายเปนปรกติ

ครั้นถึงณเดือนอ้าย สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปนมัสการพระฉายณเขาปัถวี แรมอยู่สองเวรแล้วเสด็จกลับลงมา ขึ้นไปนมัสการพระพุทธบาท กระทำพุทธสมโภช เวียนพระเทียน ครบเจ็ดวันแล้วเสด็จกลับยังพระมหานคร จึงดำรัศสั่งพระวิสุทธโยธามาตย์ให้ฟั่นเชือกน้ำมันแลทำรอกไว้ให้มาก สำหรับ