หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/319

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๘๒

ฝ่ายเนเมียวมหาเสนาบดีแม่ทัพทางเหนือ กับอุตมสิงหจอจัว แลเกรียงปันญี ปิจุนหวุ่น เยกิหวุ่น ตั้งรบกับทัพไทยอยู่ณเมืองศุโขไทยจนถึงเดือนยี่ ก็เลิกกองทัพยกลงมาบรรจบกับทัพน่าซึ่งตั้งอยู่ณเมืองกำแพงเพ็ชรนั้น

ฝ่ายมังมหานรทาแม่ทัพทางใต้ก็ยกทัพใหญ่พลหมื่นหนึ่งมาจากเมืองทวายมาบรรจบกับทัพน่าซึ่งตั้งอยู่ตอกระออม แล้วแบ่งทัพให้ปกันหวุ่น แยจออากา จิกะเรจอโบ่ ติงจาโบ่ บรรจบกับเสนัดหวุ่นกองน่า ให้ยกทัพเรือหนุนทัพเมฆราโบเข้ามาณเมืองนนทบุรี แลตัวมังมหานรทา กับติงจาแมงข่อง จอกกาโบ จอกยีโบ งาจุหวุ่น จิกแกทวาย ยกทัพบกมาทางเมืองสุพรรณบุรีเข้ามายังพระนคร ตั้งค่ายใหญ่อยู่ตำบลสีกุก แลกองทัพเรือนั้นยกขึ้นมาตั้งค่ายใหญ่อยู่ตำบลบางไทร แลพม่าล้วนแต่มีใจหยาบช้า มิได้ลอายแก่บาป ให้รี้พลไปรื้อเอาอิฐโบสถ์วิหารวัดน้อยใหญ่ทั้งปวงมาก่อกำแพงล้อมเปนค่ายทั้งสองตำบล

ฝ่ายเนเมียวมหาเสนาบดีก็ยกทัพบกทัพเรือจากเมืองกำแพงเพ็ชรลงมาบรรจบกับทัพแนกวนจอโบกองน่าซึ่งตั้งค่ายอยู่ณเมืองนครสวรรค์ แล้วก็ยกลงมายังพระมหานคร เข้ามาตั้งค่ายใหญ่อยู่ตำบลวัดป่าฝ้ายปากน้ำประสบ

ฝ่ายพระเจ้าอังวะจึงตั้งแมงกิม้ารหญ่าลงมาครองเมืองทวาย แล้วให้เกณฑ์กองทัพพม่ารามัญให้ยกหนุนเพิ่มเติมมาอิก แลสุรินทจอข่อง มณีจอข่อง มหาจอแทง อากาปันญี สี่นายถือพลพม่าพันเศษยกลงมาพักอยู่ณเมืองเมาะตมะ แล้วเดินทัพมาทางเมืองอุไทยธานี