หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/326

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๘๙

ทางทีละสามค่ายดังนี้ถึงกึ่งเดือน จึงไปเกือบจะใกล้ค่ายบ้านระจัน พวกตัวนายค่ายบ้านระจันคุมพลทหารยกออกตีค่ายพระนายกองเปนหลายครั้งไม่แตกฉาน แลพระนายกองตั้งมั่นรับอยู่แต่ในค่าย มิได้ออกรบนอกค่าย พวกบ้านระจันเสียคนล้มตายเปนอันมาก วันหนึ่ง นายทองเหม็นกินสุราเมา ขี่กระบือเผือกยกพลเข้าตีค่ายพม่า พระนายกองขับพลรามัญออกต่อรบนอกค่าย นายทองเหม็นขับกระบือไล่ถลำเข้าในกลางทัพแต่ผู้เดียว แทงพลพม่ารามัญตายเปนหลายคน พวกพม่าต่อรบต้านทานล้อมเข้าไว้ได้ เข้ารุมฟันแทงนายทองเหม็นไม่เข้า นายทองเหม็นสู้รบอยู่ผู้เดียวจนสิ้นกำลัง พม่าจับตัวได้ก็ทุบตีตายในที่นั้น พวกทัพบ้านระจันเสียนายแล้วก็แตกหนีไปค่าย ทัพพม่าพระนายกองก็ยกติดตามมาถึงบ้านขุนโลกใกล้ค่ายบ้านระจัน จึงให้เก็บเอาศพพม่าซึ่งตายแต่ทัพก่อน ๆ นั้นเผาเสียสิ้น แล้วก็ตั้งค่ายใหญ่ลงที่นั้นรักษามั่นอยู่ ทัพบ้านระจันออกตีเปนหลายครั้งไม่แตกก็เสียน้ำใจท้อถอย พระนายกองจึงให้ขุดอุโมงค์เดินเข้าไปใกล้ค่ายบ้านระจัน แล้วปลูกหอรบขึ้นสูง เอาปืนใหญ่ขึ้นยิงเข้าไปในค่ายต้องไทยตายเปนอันมาก แลตีเอาค่ายน้อยบ้านระจันได้ ยังแต่ค่ายใหญ่ แลนายแท่นซึ่งถูกปืนพม่าเข่าหักแต่ก่อนนั้นป่วยมานาน ก็ถึงแก่กรรมลงในเดือนหก ปีจอ อัฐศก

ขณะนั้น ขุนสันซึ่งมีฝีมือเข้มแขงถือปืนอยู่เปนนิตย์แลนายจันหนวดเขี้ยวยกพลทหารออกรบกับพม่าอิกเปนหลายครั้ง วันหนึ่ง พลพม่าโอบหลังเข้าได้ ก็ฆ่าขุนสันกับทั้งนายจันหนวดเขี้ยวตายในที่รบทั้งสองนาย ยังแต่พันเรืองกับนายทองแสงใหญ่อยู่ในค่ายบ้านระจัน เห็นเหลือกำลังจะสู้รบพม่า จึงบอกเข้ามาในเมืองขอปืนใหญ่แลกระสุนดินดำ เสนาบดี

๑๙